<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“ประเทศไทยควรที่จะหันหน้าเข้าหาเทคโนโลยี BLOCKCHAIN” กล่าวโดย ALEX TAPSCOTT

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นายอเล๊กซ์ แทปสก็อต ผู้บริหารระดับสูงแห่ง Northwest Passage Ventures หรือบริษัทผู้ให้คำปรึกษาทางด้านบล็อกเชนกล่าวว่าประเทศไทยควรที่จะเริ่มจริงจังกับเทคโนโลยีบล็อกเชนได้แล้ว เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน อ้างอิงจาก Bangkok Post

โดยสือบเนื่องมาจากการประชุมที่ผ่านมาในหัวข้อ ‘ Blockchain Revolution’ ที่จัดขึ้นโดย DTAC นั้น นาย Tapscott เป็นผู้พูดหลักในเกี่ยวกับเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก โดยเขาได้เรียกมันว่า “อินเทอร์เนตยุคที่สอง”

โดยอ้างอิงจากการสำรวจพบว่ามีประมาณ 40% ของประชากรไทยที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เนตผ่านโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน

โดยนาย Tapscott ได้กล่าวในงานสัมนาในครั้งนี้ว่า

“กรุงเทพฯสามารถที่จะปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีที่ว่านี้ โดยทำให้เหมือนกันที่สิงคโปร, ฮ่องกง, เบอร์ลิน และลอนดอนกำลังทำ เพื่อที่จะอยู่รอดในยุคที่สองของอินเทอร์เนตนี้ให้ได้”

สืบเนื่องจากนาย Lars Norling, ผู้บริหารระดับสูงของ DTAC นั้นได้กล่าวว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนวิถีการทำธุรกิจใหม่ในประเทศไทย รวมไปถึงการที่จะทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าอีกด้วย

ประเทศไทยจะจริงจังกับเทคโนโลยี Blockchain หรือไม่

ในอดีตนั้น bitcoin ในประเทศไทยได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนการใช้งานทำให้ถูกกฏหมาย หากจะกล่าวให้ถูกต้องแล้ว ดูเหมือนว่าธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะไม่ค่อยชอบเจ้า cryptocurrency ตัวนี้เท่าไรนัก

และในตอนนี้ ถึงแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะบอกว่าบิทคอยสามารถที่จะใช้ได้แล้วนั้น ดูเหมือนว่าอัตราการปรับตัวของคนในประเทศกำลังต่ำ

เมื่อเดือนที่แล้ว โปรแกรม remittance pilot ที่ทำการทดสอบให้แรงงานข้ามชาติ 100 คนทำการโอนเงินไปพม่าด้วยบิทคอยน์ประสบผลสำเร็จเป้นอย่างดี Everex หรือบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับ blockchain ในประเทศไทยได้ทำการนับจำนวนการโอนเงิน โดยรวมอยู่ราวๆ 850,000 บาทโดยใช้บิทคอย

โดยรวมแล้ว ถึงแม้ประเทศไทยค่อนข้างที่จะปรับตัวช้าในการรับเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้ แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีที่มีความพยายาม

หนทางยังอีกยาวไกล

อาจไม่เป็นที่น่าสงสัย ว่าตอนนี้ประเทศไทยยังห่างไกลนักกับการที่จะเป็นผู้นำร่องการใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนดั่งเช่น อังกฤษ, สิงคโปรและสหรัฐอเมริกา

อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ข้อดีของเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้จ่าย ไปจนถึงข้อมูลของรัฐบาล, พลังงาน และซัพพลาย เชนนั้น ในอนาคตประเทศไทยอาจจะกลายเป็นศูนย์รวมของเทคโนโลยีนี้ก็เป็นได้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น