<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ปากีสถานเดินรอยตามอินเดีย ยกเลิกใช้ธนบัตร 5000 รูปี โวลลุ่มเทรดบิทคอยพุ่ง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อต้นสัปดาห์นี้ วุฒิสภาแห่งปากีสถานมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกใช้ธนบัตรใบละ 5000 รูปีซึ่งถือเป็นหน่วยที่สูงที่สุด ในขณะเดียวกันโวลลุ่มการเทรดของบิทคอยพุ่งขึ้นเกือบ 400%

การเลียนแบบสงครามการเงิน

สำนักข่าวหลายๆสำนักรายงานว่าปากีสถานกำลังพยายามที่จะลดจำนวนอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้เงินสดลง และนั่นก็คือการพยายามลอกเลียนแบบอินเดียที่เพิ่งประกาศยกเลิกธนบัตรรูปีเช่นเดียวกันในเมื่อเดือนที่ผ่านมา

รอยเตอร์รายงานว่าทางวุฒิสภาของปากีสถานมีคิดว่าการที่มีหน่วยธนาบัตรที่เล็กลงนั้น “จะทำให้การใช้จ่ายผ่านบัญชีธนาคารมีมากขึ้น และช่วยลดจำนวนของธุรกิจสีเทาลงไปได้”

สิ่งที่น่าขำคือการที่ประเทศอินเดียเพิ่งจะออกมาชี้แจงถึงเหตุผลที่ต้องออกมาประกาศยกเลิกการใช้ธนบัตรบางชนิดออกไปนั้นก็เพื่อกำจัดธนบัตรปลอมที่อินเดียอ้างว่ามีต้นกำเนิดมาจากปากีสถาน

โดยอินเดียยังรายงานเพิ่มเติมถึงเหตุการณ์ที่เริ่มมีกลุ่มผู้ก่อการร้ายบางกลุ่มทำการยักยอกนำเงินปลอมออกมาจาก Kashmir

ทางวุฒสภากล่าวว่าการกำจัดธนบัตรของปากีสถานอาจจะแตกต่างจากของอินเดีย กล่าวคืออินเดียใช้ระยะเวลาในระดับวัน แต่ของปากีสถานอาจจะใช้เป็นปีถึงจะกำจัดออกหมด

บริษัทฟินเทคในปากีสถานกำลังรอแจ้งเกิด

ถึงอย่างไรก็ตาม การประกาศครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นชนวนที่ทำให้ความสนใจทางด้านธุรกิจแลกเปลี่ยนบิทคอยปะทุขึ้นแต่ก็คงจะไม่เหมือนในอินเดีย การเติบโตของบิทคอยในปากีสถานในขณะนี้อาจจะยังไม่เป็นที่น่าจับตามองมากนัก

บริษัทให้แลกเปลี่ยนบิทคอยในปากีสถานนามว่า Urdubit เพิ่งจะเข้าร่วมการสมนาเพื่อมุ่งหวังที่จะหาผู้ร่วมทำธุรกิจที่มีความสนใจในเทคโนโลยีนี้

“ถึงแม้ศักยภาพของเราจะมีมาก แต่บริษัท SME ในปากีสถานส่วนใหญ่ยังไม่สามารถที่จะปรับตัวได้ทันโลกเท่าไรนัก” รายงานจากการสัมนาเมื่อเดือนที่แล้ว

ผู้จัดงานสัมนา Ali Sarfraz ได้กล่าวเพิ่มว่า “ถึงแม้ปากีสถานจะมาช้าในเรื่องนี้ แต่ e-commerce จะเป็นอะไรที่บูมมาก และบริษัทผู้แข่งขันทางด้าน e-commerce ก็จะก็จะเริ่มมีมามากขึ้นเรื่อยๆในประเทศนี้”

ปากีสถานถือเป็นประเทศล่าสุดที่เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในสงครามการจัดการอาชญากรรมทางการเงินในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีอินเดีย, เวเนซุเอล่าและออสเตรเลียที่ได้เริ่มเคลื่อนไหวทางด้านนี้มาพักหนึ่งแล้ว

ภาพจาก IndianExpress

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น