สาเหตุที่บิทคอยได้รับความนิยมมากในหมู่นักเทรดสายใช้บอทและ algorithm ที่อยู่ข้างนอกจีนนั้นเป็นเพราะว่าการซื้อขายบิทคอยที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในตลาดจีน แต่จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาหลังจากที่ทางผู้ให้บริการเว็บเทรด BTCC, Huobi และ OkCoin ต่างก็ออกมาประกาศว่าจะเริ่มเก็บค่าธรรมเนียมในการเทรด 0.2% ต่อการซื้อและขาย โดยมีผลสืบเนื่องมาจากการสืบสวนสอบสวนการทุจริตของทางธนาคารกลางแห่งประเทศจีนต่อเว็บผู้ให้บริการเทรดดังกล่าวนี้
โดยหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตลาดบิทคอยในจีนเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นเพราะว่าการเทรดที่ไม่มีค่าธรรมเนียม ซึ่งแตกต่างจากตลาดในสหรัฐฯที่มีข้อบังคับเรื่องกฏหมายมากมาย ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลให้โวลลุ่มในการเทรดของตลาดจีนมีสูง และความต้องการในการเทรดในตลาดจีนก็มีสูงขึ้นตาม อย่างไรก็ตาม เมื่อราคาของบิทคอยพุ่งขึ้นสูงถึง ATH เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนว่าจะไปเตะตาของทางรัฐบาลจีนเข้าให้ โดยการพุ่งของราคาก็มีตัวแปรของการอ่อนค่าของเงินหยวนที่ตกลงไปถึง 6.6% เข้ามาเสริมด้วย
เมื่อทางธนาคารแห่งประเทศจีนเริ่มออกชุดสืบสวนสอบสวนเพื่อเข้าไปตรวจสอบการทุจริตที่ Huobi, OkCoin และ BTCC นั้น หลายๆฝ่ายก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าบางทีทางรัฐบาลอาจจะพยายามควบคุมไม่ให้เม็ดเงินในประเทศไหลออกนอกประเทศเพื่อปกป้องค่าเงินหยวนที่กำลังอ่อนค่าลงก็ได้
โดยรวมแล้ว ผลจากการประกาศของทางเว็บเทรดทั้งสามไม่ได้มีผลต่อราคามากนัก
ฟองสบู่มีเกิดขึ้นและแตกดับไปเรื่อยๆถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ดูเหมือนล่าสุดจะไปเกิดที่ญี่ปุ่น
โดยจากการรายงานข่าวของ Cryptocoinnews เมื่อวันหยุดที่ผ่านมานั้นได้ระบุว่าตัวแปรใหญ่ๆที่ส่งผลให้โวลลุ่มของการเทรดบิทคอยในญี่ปุ่นพุ่งสูงขึ้นนั้นสืบเนื่องมาจากร่างกฏหมายทางด้านค่าเงินดิจิตอลที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นที่จะถึงนี้ อ้างอิงจากหัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ CoinCheck หรือหนึ่งในเว็บผู้ให้แลกเปลี่ยนบิทคอยที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นหรือนาย Kagayaki Kawabata ได้อธิบายถึงร่างกฏหมายใหม่เกี่ยวกับบิทคอยดังนี้ว่า
“หลังจากการประกาศในครั้งนี้ สื่อต่างๆที่เคยมองข้ามบิทคอยไปจะหันกลับมาทำข่าวบิทคอยกันอีกครั้ง ว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีนวัตกรรมชั้นสูง (ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากการล่มสลายของ Mt. Gox ทางสื่อรายงานข่าวว่าบิทคอยคือเครื่องมือในการฟอกเงิน) โดยจะมีทั้งข่าวในทีวีของประเทศ รวมไปถึงหนังสือพิมพ์อย่าง NHK และ NIKKEI ที่จะลงข่าวในเรื่องของการแผ่ขยายการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ cryptocurrency ที่จะนำพามาซึ่งผู้ใช้งานใหม่ๆที่จะมีตั้งแต่เด็กนักเรียนยันคนแก่”
นาย Kagayaki ยังเปิดให้บริการทางด้านระบบการใช้จ่ายด้วยบิทคอยสำหรับพ่อค้าและแม่ค้า โดยบริการที่ว่านี้ใกล้เคียงกับของ BitPay อีกทั้งการประกาศออกสื่อของเขาอาจจะเป็นตัวช่วยในการเปลี่ยนแนวคิดของคนญี่ปุ่นว่าบิทคอยไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือที่ใช้ในการลงทุน เขากล่าวว่า
“ผู้คนส่วนใหญ่กำลังคิดว่าบิทคอยคือเครื่องมือสำหรับการลงทุน แต่อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อบิทคอยนั้นได้ถูกเริ่มนำมาใช้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการใช้ซื้อสินค้าเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โดยในตอนนี้มีพ่อค้าและแม่ค้าราวๆ 5,270 รายที่รับบิทคอยเป็นช่องทางในการซื้อสินค้าในญี่ปุ่น (99% ของพวกเขาใช้ Coincheck) โดยโวลลุ่มของการใช้จ่ายถ้าหากเปรียบเทียบกับของเมื่อเดือนมกราปีที่แล้ว มันได้เพิ่มขึ้นถึง 8,900% และตัวเลขนี้ก็อาจจะเพิ่มขึ้นไปอีกภายในไม่กี่ปีข้างหน้า“
เขายังกล่าวเสริมอีกว่าการบังคับใช้กฏหมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นจะส่งผลเป็นบวกให้กับบิทคอย เพราะแต่ก่อนมันถูกมองว่าเป็นของเล่นของ geek แต่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เป็นที่น่าสังเกตว่าประเทศญี่ปุ่นเคยเป็นจุดศูนย์กลางของผู้เสียหายทางด้านบิทคอยในสมัยที่ Mt. Gox ล่มสลาย และทำให้เกิดความเสียหายนับหลายร้อยล้านดอลลาร์
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น