<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ภาคอุตสาหกรรมในประเทศไทยเตรียมตัวปรับใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนปีหน้า

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ประเทศไทยของเราเริ่มมีการวางแผนปรับใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในหลายๆภาคอุตสาหกรรม รวมไปถึงภาคสถาบันการเงิน โดยจะเริ่มต้นอย่างจริงจังภายในปีหน้านี้ รายงานจากบางกอกโพส

โดยในรายงานข่าวได้พาดพิงถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนผู้ที่เริ่มเห็นภาคเอกชนและบริษัทต่างๆในประเทศไทยที่จะเริ่มเข้าหาเทคโนโลยีบล็อกเชนในปี 2561 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นที่รู้ๆกันดีว่ามีความสามารถในการเก็บข้อมูลที่ไม่สามารถแก้ไขได้ รวมไปถึงระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา และมีราคาถูก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้มีหลายๆหน่วยงานต้องหันมาจับตามอง กล่าวโดยนายภูมิ ภูมิรัตน หรือผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโลยี บล็อกเชน

ต้นทุนของการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนจะน้อยกว่าค่าบำรุงรักษาระบบแบบเดิมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน กล่าวโดยนายภูมิ

การเตรียมร่างกฏหมาย

การนำเอาเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในระบบการเงินจะเปลี่ยนแปลงหลายๆสิ่ง โดยเฉพาะทางด้านกฏหมายที่ทางหน่วยงานภาครัฐต้องคอยเข้ามาช่วยกำกับดูแล โดยพวกเขาจะต้องทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีนี้เสียก่อนที่จะเดินหน้าออกกฏหมายใหม่มารองรับได้

ประธานของ Thailand Fintech Association ได้ออกมาร้องเรียนให้ทางหน่วยงานรัฐช่วยออกกฏหมายมารองรับระบบเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆในปัจจุบัน เพื่อกระตุ้นให้มีคนมาลงทุนเพิ่มในตลาดฟินเทคในประเทศไทยที่ตอนนี้ยังถือว่าใหม่มาก

กระนั้น ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ยังไม่ได้มีแผนการที่จะออกกฏหมายทางด้านการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศแต่อย่างใด โดยผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าความเพิกเฉยของประเทศไทยทำให้คู่แข่งในเอเชียอย่างประเทศจีนที่มีอาลีบาบาได้เข้ามาอยู่ในร้านค้า 7-11 เก้าพันกว่าสาขาในประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว

กฏหมายเก่าสมควรอย่างยิ่งที่จะต้องถูกนำมาปัดฝุ่นและปรับปรุงใหม่เพื่อที่จะสามารถไล่ตามเทคโนโลยีใหม่อย่างบล็อกเชนได้ทัน โดยอ้างอิงจากนายธีรพล สุวรรณประธีป หรือหุ้นส่วนของบริษัททางด้านกฏหมาย Baker McKenzie ในไทยได้กล่าวว่า

“ผู้ออกกฏหมายควรที่จะเข้าใจเทคโนโลยีตัวนี้ และควรที่จะคำนึงถึงกฏหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะนำมาปรับใช้ด้วย”

เป็นที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะในรายงานที่เผยให้เห็นว่า Electronic Transactions Development Agency หรือผู้ออกกฏหมายเกี่ยวกับการใช้จ่ายกำลังเริ่มทำการเปลี่ยนกฏหมายว่าด้วยการโอนเงินของปี 2544 เพื่อเพิ่มการใช้งาน smart contract ผ่านระบบของเทคโนโลยีบล็อกเชนด้วย

การปรับตัวในการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในกรุงเทพฯก็เริ่มมีมาให้เห็นแล้วบ้าง โดยมีโปรแกรมการทดลองที่เป็นผลสำเร็จ ซึ่งเป็นการทดลองที่ทำกับแรงงานข้ามชาติ 100 คน โดยอนุญาตให้พวกเขาส่งเงินกลับบ้านผ่านระบบบล็อกเชนของ Ethereum

อีกทั้งยังมีการหุ้นส่วนกันระหว่างธนาคารกสิกรไทยและบริษัทสัญชาติจีนนามว่า IBS ที่กำลังเริ่มพัฒนาระบบโอนเงินบาท-หยวนเพื่อใช้ระหว่างไทยและจีนอีกด้วย

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น