โตโยต้าเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการพัฒนารถไร้คนขับ

บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ได้เคยกล่าวไว้ในอดีตว่าพวกเขาอยากจะเห็นรถยนต์ไร้คนขับออกมาวิ่งบนถนนประมาณปี 2020 นอกจากนั้นพวกเขายังลงทุนสร้างศูนย์วิจัยแห่งใหม่เป็นเงินจำนวนราวๆ 1 พันล้านดอลลาร์อีกด้วย โดยศูนย์วิจัยแห่งนี้กล่าวกันว่าสามารถที่จะใช้วิจัยและสร้างสมองกลรวมถึงหุ่นยนต์เพื่อรถยนต์ของพวกเขา โดยทางสถาบันวิจัยที่ว่านี้มีชื่อว่า Toyota Research Institute (TRI) โดยพวกเขานั้นเพิ่งจะทำการประกาศไปไม่นานมานี้ว่าพวกเขาจะทำการเดินเก้าไปข้างหน้าสู่โลกแห่งอนาคตที่ใช้รถไร้คนชับ โดยมีเทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นตัวช่วย อ้างอิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์

โดยการจะทำเช่นนั้นได้นั้น ทางบริษัทโตโยต้าได้ทำการร่วมมือกับ MIT Media Lab รวมไปถึงบริษัททางด้านเทคโนโลยีอื่นๆที่มีความสามารถทางด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อช่วยกันวิจัยว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะสามารถถูกนำมาใช้พัฒนาระบบคนชับอัตโนมัติได้อย่างไรบ้าง โดยโครงการที่ว่านี้ หากอ้างอิงจากโตโยต้าแล้ว พวกเขากล่าวว่าทางผู้ใช้งานที่เป็นบุคคลทั่วไปรวมถึงบริษัทสามารถที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างปลอดภัยในทุกๆการเดินทาง

มากไปกว่านั้น เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถที่จะถูกใช้เพื่อพัฒนาเครื่องมือที่จะสามารถทำให้การแบ่งปันรถยนต์ง่ายขึ้นอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถที่จะใช้สร้างผลิตภัณฑ์ทางด้านความปลอดภัยที่มีอัตราการใช้งานต่ำ โดยเซนเซอร์ของรถนั้นจะทำการเก็บข้อมูลการขับและเก็บไว้ในระบบบล็อกเชน ซึ่งทำให้ทางบริษัทสามารถที่จะลดค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ลงสำหรับผู้ที่มีลักษณะนิสัยที่ชอบขับที่รถปลอดภัย

นาย Chris Ballinger หรือผู้กำกับฝ่ายยานยนต์และ CFO ของ Toyota Research Institute กล่าวว่า
“เราอาจจำเป็นที่จะต้องใช้ข้อมูลของการขับขี่ของมนุษย์จำนวนร้อยพันกว่าล้านไมล์ในการทดสอบและพัฒนารถยนต์ไร้คนขับที่ปลอดภัยและไว้ใจ้ได้ เทคโนโลยีบล็อกเชนและ distributed ledger อาจจะช่วยให้รถยนต์ใช้ระบบ pooling data สำหรับเจ้าของรถ, ผู้จัดการเที่ยวรถ, และผู้ผลิต เพื่อลดระยะเวลาในการไปให้ถึงที่หมาย ที่ซึ่งจะสามารถนำพามาซึ่งความปลอดภัย, ประสิทธิภาพ และความสะดวกในการใช้รถยนต์ไร้คนขับ”

นาย Chris Ballinger ยังได้กล่าวอีกว่าทางบริษัทนั้นมีความเชื่อในเทคโนโลยี บล็อกเชน และคาดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนี้จะสามารถทำให้ต้นทุนลดลงและเพิ่มประสิทธิภาพ

 โตโยต้าและเทคโนโลยีบล็อกเชน

อ้างอิงจากสำนักข่าวรอยเตอร์นั้น มีบริษัททางด้านเทคโนโลยีอีกหลายบริษัทที่จะมาเข้าร่วมโครงการนี้ โดยมี BigchanDB หรือบริษัทสัญชาติเยอรมันที่จะมาช่วยบริษัทโตโยต้าในการ scale ฐานข้อมูลที่จะช่วยทำให้บริษัทนั้นสามารถที่จะเก็บข้อมูลทางด้านการขับขี่เพื่อใช้ในอนาคต

ยังมีบริษัท Commuterz จาก Tel Aviv และบริษัท Oaken Innovations ที่กำลังช่วยกันพัฒนาแอพบนระบบบล็อกเชนที่จะมีฟังชันอำนวยความสะดวกในการทำแชร์รถ โดยเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นสามารถที่จะช่วยเจ้าของรถในการหารายได้เพิ่มด้วยการส่งรถของพวกเขาออกไปหารายได้เสริมด้วยตัวเอง (เหมือน Uber) โดยไม่ต้องมีคนขับ

รถไร้คนขับนั้นยังไม่เพียงแต่สามารถช่วยชีวิตคนจากความผิดพลาดของมนุษย์ได้ แต่ยังสามารถช่วยลดมลภาวะโดยการขจัดปัญหารถติดได้ผ่านระบบการสื่อสารกับรถคันอื่นๆว่าคันไหนจะวิ่งไปทางไหน เส้นทางจะได้ไม่ชนกัน

CEO ของสถาบันวิจัยนามว่า Gill Pratt ได้เคยกล่าวไว้ในอดีตว่าการพัฒนารถไร้คนขับนั้นอาจจะไม่เหมือนการวิ่งร้อยเมตร แต่อาจจะเหมือนกับการวิ่งมาราธอนมากกว่า โดยในตอนนี้มีบริษัทราวๆ 18 บริษัทที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อให้เราไปถึงโลกของอนาคตได้ โดยเป็นโลกแห่งอนาคตที่ถูกขับเคลื่อนด้วยรถไร้คนขับผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน เขากล่าวว่า

“ปัญหาของการเพิ่มความปลอดภัยและการเข้าถึงของรถนั้นแก้ได้ยากมาก และความจริงก็คือเราเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น”