Pizza Hut แฟรนไชส์ฟาสต์ฟู้ดชื่อดังสหรัฐฯ ประกาศรับชำระเงินด้วย Bitcoin อย่างเป็นทางการแล้ว ในเวเนซุเอลา
ตามโพสต์ทวีตของผู้ให้บริการข้อมูลด้านคริปโต CryptoBuyer ที่เผยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า Pizza Hut ในประเทศอเมริกาใต้ได้ยอมรับ Bitcoin เป็นรูปแบบการชำระเงินสำหรับอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากบริษัทด้านคริปโตได้ร่วมมือกับ Mega Soft เพื่อผลักดันยอมรับ Cryptocurrency ในเวเนซุเอลา โดยจะอำนวยความสะดวกในการชำระเงินด้วยสกุลเงินคริปโตที่ร้านค้าและธุรกิจมากกว่า 20,000 แห่งทั่วประเทศ
“ในวันนี้ Pizza Hut ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเหล่านี้ได้และการผสมผสานแนวทางใหม่ ๆ นั้นก็เป็นสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค” นาย Richard ElKhouri ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการทั่วโลกของ Pizza Hut กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อข่าวท้องถิ่น ElAxioma “มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องรองรับคนรุ่นใหม่, คนยุคใหม่และผู้ที่มีความรู้ทางด้านเทคโนโลยี”
CryptoBuyer เผยว่า ปัจจุบันลูกค้าในเครือข่ายของ Pizza Hut สามารถชำระเงินค่าพิซซ่าเป็นสกุลเงิน Bitcoin (BTC), Litecoin (LTC), Dash (DASH), Binance Coin ( BNB), Binance USD (BUSD), Ether (ETH), Tether ( USDT)และ Dai (DAI) ในเมืองหลวงของเวเนซุเอลาได้แล้วอาทิเช่น Caracas, Maracay, Maracaibo และ Barquisimeto
Cryptobuyer นั้นเป็นบริษัทสตาร์ทอัพคริปโตที่ตั้งอยู่ในปานามา ซึ่งให้บริการด้านเกตเวย์สำหรับตู้ ATM Bitcoin ในแถบอเมริกากลางและอเมริกาใต้ และยังได้ให้บริการเกตเวย์ชำระเงินคริปโต ในธุรกิจแฟรนไชส์ต่าง ๆ เช่น เบอร์เกอร์คิงในสหรัฐฯ , Tamanaco Intercontinental Hotel ในการากัส และ Traki ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดของเวเนซุเอลา
ดูเหมือนว่าจุดเริ่มต้นของ Bitcoin นั้นจะมาพร้อมกับอาหารจานหลักของสหรัฐอเมริกามานับตั้งแต่ช่วงบุกเบิก เนื่องจากการรับชำระเงินด้วย Bitcoin ครั้งแรกนั้นก็มาจากการสั่งซื้อพิซซ่าเพียงแค่สองถาด โดยเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2010 โปรแกรมเมอร์ชื่อ Laszlo Hanyecz ได้ชำระเงินค่าพิซซ่าเป็น Bitcoin โดยจ่ายเงินไปทั้งสิ้น 10,000 BTC และเรื่องราวนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่เขาต้องจดจำไปตลอดชีวิต เนื่องจากปัจจุบันมันคิดเป็นมูลค่าราว ๆ 185 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 5.5 พันล้านบาทเลยทีเดียว