<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ค่า Difficulty ในการขุด Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 9% แตะจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังราคาร่วงอย่างรุนแรง

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ค่า Difficulty ในการขุด Bitcoin บนเครือข่ายมีการพุ่งขึ้นกว่า  9% ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มค่า Difficulty ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ฤดูร้อนของปีที่แล้ว 

โดยปกติแล้วค่า Difficulty ของ Bitcoin จะมีปรับเปลี่ยนใหม่ในทุก ๆ สองสัปดาห์หรือเมื่อครบ 2016 บล็อก นั่นหมายความว่าเมื่อนักขุดเริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ค่า Difficulty หรือค่าความยากในการขุดของอัลกอริทึม PoW ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ทำให้การค้นพบบล็อกใหม่นั้นหายากมากขึ้นนั่นเอง 

ตามข้อมูลบนเว็บไซต์ BTC.com พบว่า ค่า Difficulty ของ Bitcoin ได้มีการพุ่งขึ้นกว่า 9.32% ในวันนี้ และถือเป็นครั้งที่สองของปีนี้หลังจากที่มีการปรับเพิ่มขึ้น 0.41% ในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา

อัตราการแรงขุด PoW ของ Bitcoin คือปริมาณพลังประมวลผลของนักขุดทั่วโลกที่ถูกส่งมาเพื่อป้องกันเครือข่าย ซึ่งหากใครต้องการโจมตีหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลใน blockchain พวกเขาก็จะต้องมีแรงขุดที่เยอะมากกว่าแรงขุดที่มีบนเครือข่าย ปัจจุบันอัตราแรงขุดหรือ Hashrate ของ Bitcoin นั้นอยู่ที่ 121,637,666 terahash นั่นหมายความว่าเมื่ออัตราแรงขุดเพิ่มขึ้นและนักขุดบนเครือข่ายเริ่มมีจำนวนเยอะมากขึ้น ความปลอดภัยของ Bitcoin ก็จะเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

ตามที่ระบุไว้ใน Data Dashboard ของ The Block อัตรา Hashrate ของ Bitcoin มีการฟื้นตัวเต็มที่ นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2021 โดยที่สหรัฐฯ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำคนใหม่ในแง่ของประเทศที่ส่วนแบ่งแรงขุดมากที่สุด

จากการวิเคราะห์ของสถาบันวิจัย The Block Research พบว่า อัตรา Hashrate ของ bitcoin ทั่วโลกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 18 EH/s นับตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Foundry USA ซึ่งเป็นเจ้าของโดยบริษัทในเครือ Digital Currency Group มีอัตรา Hashrate เพิ่มขึ้นประมาณ 5 EH/s ในช่วงเวลานั้น

นี่แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในบรรดาเหมือง mining pool อันดับต้น ๆ ของโลก และการเติบโตที่เร็วที่สุดเป็นอันดับสองรองลงมานั่นก็คือ F2Pool ซึ่งมีอัตรา Hashrate โดยรวมอยู่ที่ 3.3 EH/s 

ที่มา : theblockcrypto