<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รายงานเผยเกาหลีเหนือเป็นผู้นำโลกในด้านการทำอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับ Crypto 

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

จากข้อมูลของ Coincub เกาหลีเหนือมีคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวกับ crypto มากกว่า 15 คดี โดยกวาดเงินไปประมาณ 1,590 ล้านดอลลาร์ อีก 4 ประเทศที่คิดเป็นอันดับต้น ๆ รองจากเกาหลีเหนือ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, รัสเซีย, จีนและสหราชอาณาจักร

เกาหลีเหนือยืนหนึ่ง

แม้ว่าจะไม่ทราบตัวเลขที่แท้จริงของการมีส่วนร่วมของเกาหลีเหนือต่ออัตราการเกิดอาชญากรรมคริปโตทั่วโลก แต่ Coincub ระบุว่าโปรแกรมไซเบอร์ของเกาหลีเหนือนั้นมีขนาดใหญ่และมีการจัดการที่ดี

พลเมืองส่วนใหญ่ในประเทศประสบปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหา, ภาวะขาดสารอาหารและขาดการเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน พวกเขาไม่มีแม้กระทั่งการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แต่ทว่าประเทศนี้กลับกลายเป็นดินแดนมหาอำนาจแห่งการแฮ็กข้อมูล

ด้วยเศรษฐกิจที่ปลึกวิเวกไปจากประเทศอื่น ๆ ในโลก เกาหลีเหนือสามารถทำให้เกิดแฮ็กเกอร์สายพันธุ์หนึ่งซึ่งเป็นหัวหอกในการกระทำการอุกอาจที่ร้ายแรงที่สุด เมื่อพูดถึงอาชญากรรม crypto แฮ็กเกอร์ชาวเกาหลีเหนือที่มีทักษะได้ขโมยเงินมาเพื่อสนับสนุนโปรเจกต์อาวุธยุทโธปกรณ์ของประเทศโดยได้โจมตีทางไซเบอร์เป็นระลอกและโกยเงินออกมา

รายงานระบุว่าการโจมตีทั้งหมดที่เกิดจากเกาหลีเหนือมีแนวโน้มได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เนื่องจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตถูกควบคุมโดยกรุงเปียงยางเท่านั้น กองทัพไซเบอร์ของประเทศมุ่งเป้าไปที่รัฐบาลและองค์กรเอกชนทั่วโลก เงินที่ขโมยมาได้จะไหลเข้าสู่งบประมาณกระทรวงกลาโหมของประเทศ

อุตสาหกรรม crypto ได้พบจุดเปลี่ยนที่สำคัญในปี 2020-2021 ในช่วงเวลานี้ รายงานของสหประชาชาติอ้างว่าแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือขโมยเงินและกระหน่ำโจมตีเป็นจำนวน 7 ครั้งบนแพลตฟอร์มคริปโต 

เพื่อนำเงินมาช่วยสนับสนุนโปรเจกต์ด้านนิวเคลียร์ของพวกเขา cryptocurrency เป็นหนึ่งในแหล่งหลักในการสร้างรายได้ทางอินเทอร์เน็ตของประเทศและเนื่องจากการคว่ำบาตรระหว่างประเทศอย่างทั่วถึง ธุรกรรมดังกล่าวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจึงนับว่าเป็นการฉ้อโกง

Bithumb เว็บเทรดของเกาหลีใต้ยังคงเป็นเป้าหมายสูงสุดโดยถูกโจมตี 4 ครั้งโดยแฮ็กเกอร์ของเกาหลีเหนือโดยพวกเขากวาดเงินไปได้รวมกว่า 60 ล้านดอลลาร์

กลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐอย่าง Lazarus Group ก็เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแสวงหาประโยชน์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี Sony ในปี 2014, การแฮ็ก WannaCry ที่เป็นอีกหนึ่งในการแสดงความสามารถโดยกลุ่ม Lazarus ที่นำไปสู่การโจมตีทางไซเบอร์ด้วย ransomware ที่ใช่โจมตีสถาบันต่าง ๆ ทั่วโลกจำนวนมากในปี 2017

การโจมตีกินเวลานานกว่า 7 ชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์ประมาณ 200,000 เครื่องใน 150 ประเทศ เป้าหมายหลักคือ รัสเซีย, อินเดีย, ยูเครนและไต้หวัน ไม่นานมานี้ กลุ่ม Lazarus กวาดเงินมากกว่า 620 ล้านดอลลาร์จาก Ronin bridge ของ Axie Infinity เมื่อช่วงต้นปีนี้

โปรเจกต์โจมตีทางไซเบอร์ของเกาหลีเหนือซึ่งมีรายงานว่ามีพนักงานถึง 7,000 คนและการโจมตีในกว่า 150 ประเทศ มีแนวโน้มว่าการปล้นในหลาย ๆ ครั้งที่ไม่เคยได้รับการพิสูจน์ ด้วยการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในพื้นที่ crypto แฮ็กเกอร์ของเกาหลีเหนือได้ปรับตัวให้เข้ากับ web3 และขณะนี้กำลังเล็งเป้าไปที่ DeFi ตามข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐหลายแห่ง

Crypto Winter และ เหรียญคริปโตที่เกาหลีเหนือขโมยมาเก็บไว้

หนึ่งในประเทศที่ปกครองอย่างโหดร้ายและเผด็จการที่สุดในโลกอย่างเกาหลีเหนือได้กลายเป็นผู้นำในด้านอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตแต่ด้วยการที่ตลาดตกต่ำช่วงนี้ทำให้การเก็บสะสมเหรียญของพวกเขานั้นส่อแววไม่ดีเท่าไหร่นัก

ตามที่ CryptoPotato ได้รายงานเมื่อไม่นานมานี้ การปรับฐานลงมาของตลาดคริปโตได้ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานตัวอันตรายในเกาหลีเหนือเช่นกัน การที่ตลาด crypto แดงเถือกเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถของเกาหลีเหนือในการปล้นและแฮ็กในคริปโตเพิ่มมากขึ้น