<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อะไรที่เป็นตัวกำหนดราคา Bitcoin?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Bitcoin มีมูลค่าได้อย่างไร?

กลไกตลาดเรียกว่าอุปสงค์และอุปทานมีอิทธิพลต่อราคาของ Bitcoin โดยทั่วไปราคาจะลดลงเมื่อมีผู้ขายมากขึ้นหรือราคาจะมากขึ้นถ้าผู้ขายนั้นลดลง

Bitcoin (BTC) เป็นเหรียญดิจิทัลที่ไม่ได้ออกโดยรัฐบาลหรือหน่วยงานทางกฎหมายใด ๆ ตรงกันข้ามกับสกุลเงิน fiat เช่น ดอลลาร์, ปอนด์, ยูโรและเยน โดยในการสร้าง, จัดเก็บและย้าย BTC จำเป็นต้องมีเครือข่ายผู้ใช้และโปรโตคอล cryptographic ที่กระจัดกระจายออกไป

นักลงทุนสามารถทำธุรกรรมเชิงพาณิชย์ได้โดยตรงแทนที่จะใช้พ่อค้าคนกลาง เครือข่าย peer-to-peer ขจัดข้อจำกัดทางการเทรดและทำให้การเทรดคล่องตัวขึ้น Satoshi Nakamoto ได้นำเสนอสกุลเงินดิจิทัลตัวแรกของโลกในปี 2008 ซึ่งเปิดตัวในเดือนมกราคมปี 2009

จำนวนธุรกิจที่ยอมรับ Bitcoin เพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้มีมูลค่าในตลาดโดยแท้จริง อย่างไรก็ตาม Bitcoin นั้นถูกขัดขวางอย่างมากจากปัญหาด้านความปลอดภัยและความผันผวนแม้จะอยู่ในจุดสูงสุดในเรื่องของความนิยม แต่ก็ยังมีเรื่องท้าทายในการตอบคำถามทั่วไปที่เกิดขึ้น เช่น อะไรเป็นตัวกำหนดมูลค่าของ Bitcoin, ใครเป็นคนกำหนดราคาของ Bitcoin และ Bitcoin มีมูลค่าที่แท้จริงหรือไม่

กลไกการเปลี่ยนแปลงของตลาดเป็นแบบเดียวกันกับอื่น ๆ กล่าวคือ อุปสงค์และอุปทานที่ส่งผลต่อราคาของสินค้าและบริการอื่น ๆ เป็นตัวกำหนดมูลค่าของ Bitcoin ด้วยเช่นกัน ราคาอาจจะสูงขึ้นหากมีผู้ซื้อมากกว่าผู้ขายหรือราคาอาจต่ำลงถ้าผู้ขายมากกว่าผู้ซื้อ

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าราคาของ Bitcoin ไม่ได้ถูกกำหนดโดยนิติบุคคลเพียงคนเดียวและไม่สามารถซื้อขายได้ในที่เดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทานของแต่ละตลาดหรือเว็บเทรดในการกำหนดราคา

ปัจจัยใดบ้างที่อาจส่งผลต่อราคาของ Bitcoin?

ปัจจัยต่าง ๆ ที่จะส่งผลต่อราคาของ Bitcoin ประกอบไปด้วยอุปสงค์และอุปทานของ BTC, การแข่งขันจากเหรียญคริปโตตัวอื่น, ข่าวอื่น ๆ, ต้นทุนการผลิตและกฎระเบียบ

อุปสงค์และอุปทาน

โดยพื้นฐานด้านเศรษฐศาสตร์กฎของอุปสงค์และอุปทานเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนกลไกของราคาสินค้า อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่คุ้นเคยกับแนวคิดนี้เราจะมาช่วยให้คุณเข้าใจ ตามกฎนี้ กลไกตลาดนั้นอุปสงค์และอุปทานทำงานร่วมกันเพื่อกำหนดราคาตลาดและปริมาณของสินค้าโภคภัณฑ์เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น ความต้องการสินค้าจะลดลงเมื่อราคาเพิ่มขึ้นและผู้ขายจะผลิตสินค้ามากขึ้นหรือความต้องการสินค้าจะเพิ่มขึ้นเมื่อราคาลดลงและผู้ขายจะผลิตสินค้าน้อยลง

เหตุการณ์ที่เรียกว่า Bitcoin halving ส่งผลกระทบต่อราคาของ Bitcoin เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่อุปทานของ BTC ลดลงในขณะที่ความต้องการใน BTC เพิ่มขึ้นเมื่อความต้องการใน BTC มีสูงขึ้น ราคา BTC ก็จะขยับขึ้นตาม

นอกจากนี้ Bitcoin ยังถูกสร้างขึ้นโดย Satoshi Nakamoto ด้วยจำนวนทั้ง 21 ล้าน BTC หากกล่าวอีกนัยก็คิแผู้ขุดจะไม่ได้รับ Bitcoin ใหม่สำหรับการยืนยันการทำธุรกรรมเมื่อ Bitcoin ถูกขุดออกมาครบแล้ว การลดรางวัลบล็อกลงครึ่งหนึ่งในทุก 4 ปีอาจไม่ส่งผลกระทบต่อราคาของ BTC หากถึงจุดนั้นสิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดมูลค่าของ Bitcoin จะกลายเป็นการใช้งานจริงแทน

การแข่งขันและข่าว

BTC ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากเหรียญ altcoin เช่น Ethereum (ETH) และเหรียญ meme เช่น Dogecoin (DOGE) ทำให้การกระจายพอร์ตการลงทุนดูเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน การอัพเกรดใด ๆ โดยเหรียญ cryptocurrency ที่มีอยู่อาจทำให้ราคาของ BTC ลดลง

ซึ่งผลลัพธ์อาจออกมาตรงกันข้ามหาก Bitcoin เป็นคริปโตที่มีอยู่เพียงสกุลเดียวและเนื่องด้วยการรายงานข่าวของสื่อ คุณอาจต้องการซื้อเหรียญ crypto ที่มีอนาคตสดใสและเพิกเฉยต่อเหรียญที่มีอนาคตที่มืดมน

ต้นทุนการผลิต

ต้นทุนการผลิตสำหรับ Bitcoin ประกอบไปด้วยค่าใช้จ่ายโครงสร้างพื้นฐาน, ค่าไฟฟ้าสำหรับการขุดและระดับความยากของอัลกอริทึมทางคณิตศาสตร์ (ต้นทุนทางอ้อม) ระดับความยากต่าง ๆ ในอัลกอริธึมของ BTC สามารถชะลอหรือเร่งความเร็วของการผลิต Bitcoin ได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปทานของ Bitcoin และมันจะส่งผลต่อราคา

กฎระเบียบ

กฎระเบียบของ Cryptocurrency มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จากหลาย ๆ ประเทศต่าง เช่น เอลซัลวาดอร์ยอมรับว่าเป็นเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายหรือจะเป็นจีนที่แบนการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง crypto อย่างเป็นทางการ 

ราคาของ BTC อาจลดลงได้หากมีความกังวลเกี่ยวกับการตัดสินใจของรัฐบาลที่เฉพาะเจาะจงต่อ cryptocurrency นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของกฎระเบียบจะสร้างความกลัวให้กับนักลงทุน ทำให้มูลค่าของ Bitcoin สามารถลดลงไปได้อีก

ทำไมราคา Bitcoin ถึงผันผวนมาก?

จำนวน BTC ใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นในแต่ละวันที่ลดลงเนื่องจากมี Bitcoin อยู่จำนวนจำกัดเพื่อรักษาราคาให้คงที่อุปสงค์ต้องไปในทิศทางเดียวกับอัตราเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นนี้ ตลาด Bitcoin ค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ 

และความครอบคลุมของสื่อเพียงอย่างเดียวสามารถผลักดันราคาขึ้นหรือลงได้ ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับความตั้งใจของ Tesla ที่จะยอมรับ BTC จะทำให้มูลค่าของมันสูงขึ้นหรือในทางกลับกันการที่ Tesla ออกมาบอกว่าจะไม่รับ Bitcoin ส่งผลให้ราคาของ Bitcoin ร่วงดิ่งในทันทีนั่นจึงทำให้ราคาของ Bitcoin มีความผันผวนสูง

ในทำนองเดียวกัน ทวีตที่ออกมาบอกว่าบล็อกเชน Bitcoin หยุดทำงานจะทำให้มูลค่าของมันลดลงตามมาด้วยปริมาณการเทรด Bitcoin ที่ลดลงดังนั้นเมื่อพิจารณาถึงความผันผวนสูงแล้วแบบนี้ราคา Bitcoin สามารถเหลือ $0 ได้หรือไม่? ในทางเทคนิคแล้วมันสามารถเป็นไปได้ 

ตัวอย่างเช่น ราคาของ BTC ไม่ได้ถูกตรึงไว้กับสกุลเงิน fiat ใด ๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐหรือสินทรัพย์อื่น ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริงนั่นจึงทำให้เกิดความอ่อนไหวได้ง่ายต่อการสูญเสียมูลค่าในตัวเอง อย่างไรก็ตามเราได้เห็นแล้วว่า algorithmic stablecoin อย่าง Terra USD ก็สามารถสร้างความปั่นป่วนให้ตลาดคริปโตได้เช่นกัน

สำหรับเหตุการณ์หายนะที่จะเกิดขึ้นในกรณีของ BTC นั้นอาจเกิดให้เห็นสำหรับสัญญาณที่เป็นอันตรายก็เช่น ตลาดกระทิงที่กินเวลานาน นอกจากนี้ โครงสร้าง Bitcoin ที่ซับซ้อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่มันจะถูกทำลายได้ 

อย่างไรก็ตามปัญหาด้านความสามารถในการปรับขนาดได้อาจทำให้อนาคต Bitcoin ตกอยู่ในความเสี่ยงแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าราคาของ BTC จะลดลงจนเหลือศูนย์ในทันทีทันใด