ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BOE) ได้เตือนว่าสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงตราสารทุนและสกุลเงินดิจิทัล ยังคงมีความเสี่ยงที่ราคาจะปรับสูงขึ้นอีก
ท่ามกลางความเสี่ยงด้านลบจากภาวะถดถอย อุปทานที่เพิ่มขึ้นและการเข้มงวดของนโยบายการเงินอาจเพิ่มขึ้นเร็วเกินคาด ทั้งนี้ BOE ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงกรอบการกำกับดูแลและการบังคับใช้กฎหมาย
BOE เตือน Crypto อาจไม่สิ้นสุด
ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษได้เตือนว่าความเจ็บปวดสำหรับทั้งตลาดแบบดั้งเดิมและตลาด crypto อาจไม่สิ้นสุด
ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางกล่าวว่าแนวโน้มเศรษฐกิจที่แย่ลงทำให้เกิดความผันผวนอย่างมากในตลาดในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและคริปโตปรับลดลงอย่างรวดเร็ว
ตามรายงานการชะลอตัวของ crypto ได้เปิดเผยช่องโหว่หลายประการในตลาดที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงินโดยรวม แต่ยังคงเน้นถึงความจำเป็นในการออกกฎระเบียบและการบังคับใช้ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
“ช่องโหว่จำนวนหนึ่งถูกเปิดเผยในตลาด cryptoasset คล้ายกับช่องโหว่ในอดีตในส่วนดั้งเดิมของระบบการเงิน ซึ่งรวมถึงความไม่ตรงกันของสภาพคล่องที่นำไปสู่ไดนามิกของการเพิ่มขึ้นและลดลงของราคา รวมทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ลงทุนบน stablecoins เพื่อรักษาสินทรัพย์ของพวกเขานั้นอ่อนแอลงอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ที่ไม่มีสินทรัพย์สำรองหรือมีสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงแต่ความโปร่งใสที่ต่ำจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางการเงินโดยรวม”
BOE อธิบายเพิ่มเติมว่าหากความนิยมของ crypto และความสัมพันธ์กับระบบการเงินแบบดั้งเดิมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกิดความเสี่ยงเชิงระบบสำหรับเศรษฐกิจในวงกว้างขึ้นได้
ในขณะที่ BOE เรียกร้องให้มีการควบคุมคริปโตที่เข้มงวดขึ้น แต่ก็ไม่ได้แนะนำกฎใหม่สำหรับสินทรัพย์แบบดั้งเดิม เช่น หุ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดหุ้นสูญเสียมากกว่า 11 ล้านล้านดอลลาร์ตั้งแต่ต้นปี หรือประมาณ 3.6 เท่าของมูลค่ารวมของตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่จุดสูงสุด
อีกทั้งหุ้นของบริษัทเทคโนโลยี blue-chip หลายแห่ง เช่น Meta, Netflix, PayPal และ Shopify ลดลงอย่างโหดร้ายถึง 52.7%, 69.8%, 63.3% และ 77% เมื่อเทียบรายปีโดยไม่ดึงดูด ความสนใจด้านกฎระเบียบใด ๆ Bitcoin ลดลงประมาณ 55% ในช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตามแม้จะมีการปรับฐานของตลาดอย่างมีนัยสำคัญ แต่ BOE ย้ำว่าความเจ็บปวดสำหรับหุ้นและสกุลเงินดิจิทัลอาจไม่สิ้นสุดจากความเสี่ยงด้านลบจากอุปทานที่เพิ่มขึ้น การเข้มงวดของนโยบายการเงินที่เร็วกว่าที่คาด และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้ากว่าที่คาดการณ์