ตลาดคริปโตได้ร่วงอย่างรุนแรงในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ Market Cap ของตลาดคริปโตเพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้ราคาของ Cryptocurrency ฟื้นตัวขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา Market Cap ของตลาดคริปโตอยู่ที่ 9.06 แสนล้านดอลลาร์ แต่ในวันที่ 17 กรกฏาคม Market Cap ของตลาดคริปโต ได้เพิ่มขึ้นมาเป็น 9.77 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 7.83% ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
ตลาดคริปโตได้ฟื้นตัวขึ้น แม้ว่าจะมีบริษัทคริปโตชั้นนำหลายแห่งยื่นล้มละลาย และมีการปรับโครงสร้างองค์กรเนื่องจากการร่วงของตลาดในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา
Celsius แพลตฟอร์มให้กู้ยืมคริปโต เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีชื่อเสียงได้ยื่นล้มละลายจากการระงับการถอนเงินของลูกค้า นอกจากนี้กองทุนป้องกันความเสี่ยง Three Arrows Capital และบริษัท Voyager Digital ก็ยื่นล้มละลายเช่นกัน
แม้ตลาดจะมีการฟื้นตัวเล็กน้อย แต่ปัจจุบันราคา Bitcon ก็ห่างจากระดับ ATH ที่ราคา 68,000 ดอลลาร์อยู่พอสมควร โดยตอนนี้ Market Cap ของตลาดคริปโตอยู่ที่ 3 ล้านล้านดอลลาร์
Bitcoin กำลังรักษาระดับ 20,000 ดอลลาร์
ในช่วงเวลา 30 วันที่ผ่านมา Bitcoin ได้พยายามยืนเหนือ 20,000 ดอลลาร์ แต่ก็มีร่วงต่ำกว่าระดับนั้นอยู่บางช่วง โดยปัจจุบันราคา Bitcoin อยู่ที่ 21,350 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้นมา 3.4% ในเวลา 1 วัน อ้างอิงข้อมูลจาก CoinMarketCap
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่าราคา Bitcoin อาจจะพุ่งไปที่ราคา 30,000 ดอลลาร์ที่เป็นระดับจิตวิทยาที่สำคัญได้ในเดือนกันยายน เนื่องจาก Bitcoin สามารถยืนเหนือราคา 20,000 ดอลลาร์ได้
การฟื้นตัวของตลาดเป็นเรื่องที่น่ายินดี เมื่อเราต้องมาเจอกับอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในเดือนมิถุนายนแตะระดับ All-Time-High ที่ 9.1% และตอนนี้ตลาดคริปโตก็ร่วงประมาณ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในทันที
เครื่องมือที่ใช้มองหาจุดต่ำสุดของตลาด
ดูเหมือนว่านักวิเคราะห์แต่ละคนจะใช้เครื่องมือที่ต่างกันในการหาจุดต่ำสุดของตลาด แต่นาย Glen Goodman ที่ปรึกษาด้านคริปโตของบริษัทแลกเปลี่ยนสินทรัพย์eToro เชื่อว่าข่าวแย่ ๆ ที่โผล่มาในสื่อกระแสหลักบ่งบอกถึงจุดต่ำสุดของราคา
โดยช่วงนี้สื่อกระแสหลักและนักวิเคราะห์บางคนได้บอกว่า Bitcoin และตลาดคริปโตนั้นตายแล้ว
โดยข่าวแย่ ๆ นี้ได้รับแรงหนุนมาจากการสูญเสียครั้งใหญ่ในตลาดคริปโต ที่มีบริษัทคริปโตหลายแห่งยื่นล้มละลาย
นอกจากนี้โลกคริปโตยังได้รับผลกระทบจากการล่มของโปรเจ็ค Terra และเหตุการณ์นี้จึงดูเหมือนว่าจะทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตลดลง
โดยรวมแล้วตลาดคริปโตยังต้องคอยรับมือกับผลกระทบจากกฏระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับ Cryptocurrency ที่ออกโดยผู้มีอำนาจ
Source : Finbold