<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ดัชนีความกลัวและความโลภหลุดพ้นจากโหมด “Extreme Fear” แล้ว หลังติดอยู่ระดับนี้มานานถึง 73 วัน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในที่สุดตลาดคริปโตก็สามารถหลุดพ้นจากโซน “ความกลัวอย่างสุดขีด” ได้เสียทีหลังจากที่ตกอยู่ในสภาพกลัวสุดขีดนี้มาอย่างยาวนานถึง 73 วัน 

ในวันที่ 19 กรกฎาคม ดัชนี Crypto Fear and Greed ได้มีการเบนเข็มขึ้นเล็กน้อยจาก “ความกลัวสุดขีด” เปลี่ยนเป็นเพียงแค่ “หวาดกลัวปกติ” เท่านั้นโดยมีช่วงคะแนนอยู่ที่ 30 จาก 100 คะแนน

ดัชนี Crypto Fear and Greed ได้วิเคราะห์ในตลาดคริปโตปัจจุบันของตลาด โดยเกณฑ์การได้คะแนนระหว่าง 0 ถึง 100 นี้จะขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาด ปริมาณวอลุ่มและการครอบงำ ความเชื่อมั่นในโซเชียลมีเดีย การสำรวจ และข้อมูลแนวโน้มการค้นหาเป็นหลัก

บริษัท Santiment บน Twitter โพสต์บอกนักเทรดทั้งหลายในทวิตเตอร์ว่า ตอนนี้แนวโน้มกำลัง “เปลี่ยนเส้นทางแล้ว” และตอนนี้กำลังรอที่จะให้กราฟราคา Breakout ในระยะยาว

ตามที่บริษัทระบุ อัตราการระดมทุนเฉลี่ยของ BTC ในการแลกเปลี่ยนนั้นแตะระดับสูงสุดในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากราคาของ BTC พุ่งขึ้นจนสามารถยืนเหนือราคาที่ $23,600 ซึ่งอาจบ่งบอกถึงระดับของความกลัวที่จะตกรถ (FOMO)

Mike Novogratz ซีอีโอของ Galaxy Digital ยังมองโลกในแง่ดีเพราะเขาคาดว่าราคาของ Bitcoin จะพุ่งขึ้นจนยืนเหนือราคาที่ $500,000 ภายใน 5 ปีข้างหน้า ในทางกลับกัน รายงาน “ตลาดหมีในมุมมอง” ของ Grayscale ชี้ให้เห็นว่าตลาดหมีในปัจจุบันลากยาวถึง 250 วัน

ด้าน Finder แพลตฟอร์มเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ได้ทำการคาดการณ์ที่คล้ายกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากรายงานการสำรวจและการคาดการณ์ Bitcoin ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม โดยผู้เชี่ยวชาญด้าน Fintech จำนวน 5 คนที่ Finder และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกว่า 53 คน คาดการณ์ว่าราคาของ BTC จะผ่านจุดต่ำสุดที่ราคา $13,676 ก่อนที่จะมีแนวโน้มพุ่งขึ้นสู่ที่ราคา $100,000 ก่อนปี 2025 และ $300,000 ก่อนปี 2030.

ในที่เขียนรายงานอยู่นี้ Bitcoin มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $23,620 ดอลลาร์