<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Ethereum มีปริมาณอุปทานที่จำกัดหรือไม่?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เรามักได้ยินข้อโต้แย้งว่า BTC เป็นตัวป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่ดีเลิศเนื่องจากอุปทานของมันถูกจำกัดไว้ที่ 21 ล้าน BTC และเกิดการ Halving ทุก ๆ 4 ปี 

สิ่งนี้นำไปสู่ความเข้าใจผิดว่าเหรียญคริปโตที่มีอุปทานไม่จำกัดนั้นเป็นเหมือนกับเงินเฟ้อซึ่งหมายความว่ามูลค่าของมันจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามว่า Ethereum (ETH) มีอุปทานจำกัดหรือไม่?

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2018 Vitalik Buterin พูดติดตลกว่าอุปทาน ETH ทั้งหมดอยู่ที่ 120 ล้าน ETH ส่วนเหตุผลของเขาน่ะหรอ? เพื่อการันตีเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับ Ethereum แม้ว่านี่จะเป็นเพียงเรื่องขำ ๆ ในวัน April Fool แต่ก็นำเราไปสู่การถกเถียงเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อกับภาวะเงินฝืดในหัวข้อที่เกี่ยวกับอุปทานของคริปโต

จำนวนอุปทานของ Ethereum

ในช่วง ICO Ethereum ปี 2014 อุปทานรวมของ Ethereum อยู่ที่ประมาณ 72 ล้าน ETH แปดปีให้หลังพอมาจนถึงเดือนมิถุนายน 2022 อุปทานของ ETH ทั้งหมดมีมากกว่า 121 ล้าน ETH อยู่เพียงเล็กน้อย

อุปทานของ Ethereum นั้นมีไม่จำกัดแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราจะมี Ethereum หมุนเวียนอยู่ในตลาดหลายพันล้าน ETH โดยจำนวน ETH ที่ถูกผลิตออกมาลดลงอย่างต่อเนื่อง 

ซึ่งหมายความว่าเรื่องของเงินเฟ้ออาจไม่ใช่ปัญหาหลักสำหรับ Ethereum สิ่งสำคัญที่ควรทราบ ณ จุดนี้คือ Ethereum และ Ethereum Classic เป็นโปรโตคอลที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิงแล้ว

นอกเหนือจากอุปทานจำกัดต่อปี อุปทานในอนาคตของ Ethereum นั้นต้องอาศัยนโยบายการเงินเป็นอย่างมาก

นโยบายการเงินของ Ethereum

แม้ว่าการจำกัดอุปทานของเหรียญจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อ แต่นั่นก็ไม่ใช่เพียงวิธีเดียว อาจมีข้อโต้แย้งว่าอุปทานที่มีจำกัดอาจพิสูจน์ได้ว่าขัดต่อสัญชาตญาณในอนาคต

เนื่องจาก DeFi ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเพราะมันรันอยู่บน Ethereum ซะเป็นส่วนใหญ่ นโยบายการเงินสามารถนำไปใช้เพื่อควบคุมแรงกดดันด้านเงินเฟ้อโดยไม่ต้องพึ่งพาเรื่องอุปทานที่มีจำกัด

ที่น่าสังเกตคือ Ethereum ไม่มีนโยบายการเงินที่แน่นอน นโยบายการเงินอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับข้อเสนอการปรับปรุง Ethereum (EIP) 

โดย EIP เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดวันเวลาของอุปทาน Ethereum ซึ่ง EIP จะเป็นวิธีการทั่วไปในการเสนอและนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่เครือข่าย Ethereum

และรางวัลที่จ่ายบน Ethereum ในเวลาใดก็ตามจะเป็นตัวกำหนดนโยบายการเงินได้ดีที่สุดซึ่งรางวัลเหล่านี้ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มอุปทานของ ETH รวมถึง ETH ที่จะออกมาต่อบล็อกและค่าธรรมเนียมที่จะให้เป็นค่าตอบแทนให้กับผู้ ขุด

ที่ควรรู้คือ Ethereum มีอุปทานไม่คงที่ซึ่งแตกต่างจาก altcoin เหรียญอื่น ๆ เช่น Cardano ซึ่งเป็นสาเหตุที่นโยบายการเงินสามารถอธิบายได้ดีที่สุดว่าเป็น “การปล่อยเหรียญออกมาขั้นต่ำเพื่อความปลอดภัยของเครือข่าย” ปัจจุบันการปล่อย Ethereum ออกมาต่อบล็อกประจำปีอยู่ที่ประมาณ 3.68% และจะลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป

ในอนาคตเหรียญ ETH ที่ปล่อยออกมานั้นจะเพิ่มขึ้นไม่ได้เลยดังนั้นเราต้องขอบคุณการเปิดตัวของ Ethereum 2.0 ที่มี proof-of-stake ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดจำนวนเหรียญที่ถูกปล่อยออกมา และ EIP-1559 ที่เปิดตัวการเบิร์นเหรียญ

ทำให้การันตีได้อย่างมีประสิทธิภาพว่า ETH จะถูกเบิร์นมากกว่าที่ถูกสร้างขึ้นมานอกจากนี้ The Merge ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะลดอัตราการปล่อย ETH ออกมาให้ต่ำกว่า 1% และสิ่งนี้นำเราไปสู่คำถาม: Ethereum นั้นเป็นจะเกิดภาวะเงินฝืดหรือไม่?

Ethereum จะเกิดภาวะเงินฝืดหรือไม่?

Ethereum อาจเกิดภาวะเงินฝืดในไม่ช้า โดย Ethereum นั้นสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ด้วยการใช้กลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Work ปัจจัยหลักสองประการที่ใช้ในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อคือเวลาบล็อก และรางวัลต่อการบล็อก 

แต่ด้วยการเปิดตัว Ethereum 2.0, EIP-1559 และ The Merge ที่กำลังจะเกิดขึ้นทำให้เครือข่ายถูกคาดว่าจะเกิดภาวะเงินฝืด

Ethereum 2.0 ได้นำเสนอกลไกฉันทามติ PoS และตั้งค่าให้ลดอัตราการปล่อย ETH ออกมาได้ดีอย่างมากการเสนอ PoS ทำให้รางวัลการขุดภายใต้ PoW หายไป

แต่จะถูกแทนที่ด้วยจำนวน ETH ที่ถูก stake โดยผู้ตรวจสอบเครือข่ายและพวกเขาจะได้รับผลตอบแทนในส่วนนี้ ทำให้ผู้ขุดมีแรงจูงใจในการขุด ETH มากกว่าเหรียญ PoW ตัวอื่นเช่น Litecoin

หากกล่าวโดยสรุป ถ้าถามว่า Ethereum มีอุปทานที่จำกัดหรือไม่? คำตอบก็คือไม่ในขณะที่ Ethereum ได้รับการพิจารณาว่าเป็นคริปโตที่มีความเป็นเงินเฟ้อ 

แต่การอัปเกรดหลายชุดตั้งแต่ Ethereum 2.0, EIP-1559 และ The Merge ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะทำให้ Ethereum เกิดภาวะเงินฝืด การอัปเดต EIP-1559 เป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดในเครือข่าย Ethereum มันเป็นการนำเสนอกลไกสภาวะเงินฝืดผ่านการทำลายกำแพงค่าธรรมเนียมขึ้นต่ำและ The Merge ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะลดอัตราการปล่อย ETH ต่อบล็อกออกให้ต่ำกว่า 1% เป็นอย่างมาก

ที่มา : Cryptoglobe