<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ฟินแลนด์เทขาย Bitcoin ออกไปกว่า 1,889 BTC เพื่อนำไปสมทบทุนช่วยเหลือยูเครน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กรมศุลกากรของฟินแลนด์ (หรือที่รู้จักในนาม Tulli) ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านศุลกากรของรัฐบาลฟินแลนด์ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าได้เทขาย Bitcoin ที่ “ได้ริบมาตามกฎหมาย” 

“ในช่วงฤดูร้อนกรมศุลกากรของฟินแลนด์ได้ตระหนักถึงคุณค่าของ Bitcoin ที่ถูกริบโดยรัฐบาลอย่างถูกกฎหมาย” โดยในประกาศมีรายละเอียดว่า

“Bitcoin กว่า 1,889 BTC ที่รัฐบาลมีซึ่งคิดเป็นมูลค่าทั้งหมดประมาณ 46.5 ล้านยูโรจากการขาย”

กรมศุลกากรอธิบายว่า Bitcoin ที่ถูกยึดมานั้น “เกี่ยวข้องกับการสอบสวนความผิดที่เกี่ยวขกับสารเสพติดและสารต้องห้าม”

Bitcoin “ถูกเทขายผ่านโบรกเกอร์ คริปโต 2 เจ้าที่ได้รับการคัดสรรโดยกรมศุลกากรผ่านการเจรจาแข่งขันกันในปลายฤดูใบไม้ผลิ” การประกาศก็ยังคงดำเนินต่อไป

กรมศุลกากรของฟินแลนด์ยังได้เปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่ายังเหลืออีกประมาณ 90 BTC ยังคงอยู่ในการถือครองของพวกเขาซึ่งกำลัง “รอการตัดสินอย่างถูกต้องเพื่อทำการริบ” 

ในขณะที่เขียนราคาของ Bitcoin อยู่ที่ $22,874 ลดลงมากว่า 10% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา แต่ก็เพิ่มขึ้น 14.4% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา

Tulli กล่าวเพิ่มอีกว่าได้ยึดเหรียญ crypto สกุลอื่น ๆ มาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการสอบสวนกรณีเหล่านี้ยังดำเนินไปอยู่ “จะไม่สามารถเปิดเผยชนิดของเหรียญหรือจำนวนเงินในรายละเอียดใด ๆ ได้” ศุลกากรฟินแลนด์ได้อธิบายและกล่าวเสริมอีกว่ามูลค่าเหรียญเหล่านี้มีมากสูงสุด “หลายแสนยูโร”

Pekka Pylkkänen ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของ Tulli กล่าวกับสำนักข่าว STT ของฟินแลนด์ว่า Bitcoin ส่วนใหญ่ถูกยึดและเทขายในช่วงฤดูร้อน (จำนวนกว่า 1,666 BTC) ถูกยึดในปี 2016 หลังจากทำการจับกุมพ่อค้ายาชาวฟินแลนด์ที่ชื่อ Douppikauppa ในปี 2017 ศาลอุทธรณ์ Turku ก็ได้ตัดสินจำคุกพ่อค้ายาคนนี้เป็นเวลาหลายปี

Annika Saarikko รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฟินแลนด์ได้กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคมว่าเงินที่ได้จากการเทขาย Bitcoin ที่ถูกยึดจะถูกนำไปใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ยูเครน ซึ่งกำลังทำสงครามกับรัสเซีย เธอระบุว่าเงินส่วนนี้จะนำไปใช้ในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการฟื้นฟูประเทศ

Pekka บอกกับสำนักข่าวว่ารัฐบาลได้รับเงินจากการเทขาย Bitcoin แล้วโดยเขายังระบุอีกว่า “เราจะได้เห็นกันชัดเจนว่าเงินส่วนนี้กำลังจะไปที่ยูเครน”