<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักวิเคราะห์เผย เจ้ามือเทขาย Bitcoin จำนวนกว่า 236,000 BTC นับตั้งแต่ Terra ล่มสลายในเดือนพฤษภาคม

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตามโพสต์ Twitter ล่าสุดของ Vetle Lunde นักวิเคราะห์จาก Arcane Research เปิดเผยว่า นักลงทุนสถาบันได้ทำการขาย Bitcoin ไปเป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่เกิดการล่มสลายของ Terra 

การบังคับขาย

จากมุมมองของ Lunde การเทขายครั้งใหญ่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานั้น ได้มีจุดเริ่มต้นมาจากการล่มสลายของ Terra ในวันที่ 10 พฤษภาคม เมื่อ Do Kown ต้องขาย Bitcoin กว่า 80,000 BTC เพื่อรักษาความเสถียรภาพให้กับเหรียญStablecoin อย่าง UST และตั้งแต่นั้นมา ราคาของเหรียญคริปโตก็ร่วงอย่างรุนแรงอีกทั้งยังเพิ่มแรงกดดันในด้านการขาย ซึ่งนำไปสู่การเทขายรวมกว่า ​​236,237 BTC

ท่ามกลางตลาดขาลง แน่นอนว่า นักขุดเหมืองจำเป็ยต้องขาย Bitcoin ของพวกเขาเพื่อเอาตัวรอด โดยข้อมูลเผยว่า พวกเขาขายได้จำนวน 4,456 BTC และล่าสุดนั้น Tesla เอง ก็ได้ขาย 75% ของ Bitcoin ที่บริษัทถืออยู่ หรือคิดเป็นจำนวนราว ๆ 29,060 BTC ซึ่งตามการประมาณการของ Lunde ตั้งข้อสังเกตว่า Tesla ยังคงถือ Bitcoin อยู่อีก 9,686 BTC ลดลงจากเดิมที่ 43,053

เมื่อดูจากการที่ Tesla ขาย Bitcoin ไป 10% เพื่อ “ทดสอบสภาพคล่อง” ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2021 หลังจากที่ราคาของ Bitocin ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อนำมาเทียบกับการขายในรอบนี้นักวิเคราะห์มองว่า Tesla ได้ขาดทุนจากการขาย Bitcoin ไม่มากอย่างที่คิด

การล้มละลายของบริษัทให้กู้ยืมคริปโต

ย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายนเมื่อตลาดคริปโตเริ่มกลายเป็นสีแดงอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านคริปโตล้มละลายกันระนาว อันเป็นผลมาจากการล่มสลายของ Luna โดยการที่ 3AC ได้ยื่นล้มละลายนั้นส่งผลกระทบต่อผู้ให้กู้รายใหญ่อย่าง Celsius และ Voyager ซึ่งทั้งสอง ก็ได้ยื่นล้มละลายในเดือนต่อมา

นอกจากการ liquidation ครั้งใหญ่ของ 3AC ที่ลุกลามไปทั้งตลาดแล้ว Canadian Purpose ETF ได้ redeemed Bitcoin จำนวน 24,510 BTC ในช่วงระหว่างวันที่ 16 มิถุนายนถึง 20 มิถุนายน ซึ่งทำให้การเทขายในตลาดย่ำแย่ลงไปอีก ส่งผลให้ราคา Bitcoin ลดลงไปอยู่ในช่วงระดับราคา $17,700 

อย่างไรก็ตาม 2 เดือนที่ผ่านมาทาง Lunde ได้สรุปขอบเขตของการเทขาย Bitcoin ในตลาด ซึ่งอาจจะแย่กว่าที่เขาได้กล่าวไว้ เนื่องจาก “การเทขายของนักเทรดรายย่อยและสถาบัน เขาเชื่อว่า เป็นผลกระทบเกิดขึ้นจาก Domino Effect

ที่มา : cryptopotato