ประเด็นที่ยังคงร้อนแรงในชุมชนคริปโตไทยในวันนี้ก็คงหนีไม่พ้นประเด็นเรื่องของที่เกิดขึ้นกับ Zipmex ซึ่งปัจจุบันลูกค้ายังไม่สามารถที่จะถอนเงินออกจากในส่วนของกระเป๋าเงิน Z Wallet ออกมาได้
ในประเด็นนี้เองที่ทำให้ อาจารย์ตั๊ม พิริยะผู้ก่อตั้ง ChalokeDotCom รู้สึกอดไม่ไหวที่จะกระโดดเข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็น โดยเป็นการแชร์บทความ “ซิปเม็กซ์” ตั้งใจมาโกย? แฉรู้ว่าคู่ค้าเจ๊งแต่ยังอัดแคมเปญรับฝาก เอฟเฟกต์ทำลายเชื่อมั่นคริปโตฯ” มาจากสำนักข่าวผู้จัดการออนไลน์ เพื่อโยงถึงคำถามที่ยังคงคาใจอยู่ 2 ประเด็นหลัก ๆ เกี่ยวกับกรณีของ Zipmex
โดยในส่วนของประเด็นแรก อาจารย์ตั๊มได้ตั้งข้อสังเกตว่า :
Babel, Celcius ไม่ได้เพิ่งมาล่ม แต่หลังจากที่รู้สถานการณ์เป็นเดือนแล้ว ทำไมยังมีการพยายามชักชวนลูกค้าให้ย้ายเงินไป Z Wallet อย่างแข็งขัน ?
ต่อกันด้วยคำถามที่ตามมาในเรื่องการขาดโปร่งใสของเว็บเทรด รวมถึงความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับข้อมูลสถานที่เก็บเงินทุนของลูกค้า และการจัดลำดับความสำคัญที่ดูเหมือนว่าจะมีการให้สิทธิพิเศษกับนักลงทุนบางส่วนสามารถทำธุรกรรมได้ก่อนหรือไม่
เงินของลูกค้าที่โอนไป Z Wallet หลังจากที่ Celcius ประกาศล้มละลาย และสถานการณ์ของ Babel เป็นที่ประจักษ์แล้ว แต่เงินยังถูกส่งต่อไปลงทุนในบริการเหล่านี้อีกเหรอ หรือเก็บไว้ที่ไหน? หรือเอามาให้คนส่วนหนึ่งสามารถถอนออกได้ทันก่อน ?
จากโพสต์ของอาจารย์ตั๊มที่กล่าวไปข้างต้น ถือว่าเป็นคำถามที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับประเด็นที่นักลงทุนรายย่อย อย่างเรา ๆ ควรได้ฉุกคิดเกี่ยวกับสิทธิ์ของการได้รับข้อมูลที่ชัดเจน ความครอบคลุม รวมถึงความโปร่งใส เพื่อที่ตัวของนักลงทุนจะได้รับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไปจนถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
อย่างไรก็ดีล่าสุดทาง ก.ล.ต. เริ่มมีการเคลื่อนไหวและออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แล้ว โดยช่วงค่ำเมื่อวานนี้มีคำสั่งให้ Zipmex เปิดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลตาม Trading rules รวมถึงระบบฝากและถอนเหรียญ เพื่อเป็นการเพิ่มความคุ้มครองแก่ทรัพย์สินของลูกค้าและเพื่อประโยชน์ในการใช้บริการของลูกค้าในการซื้อขาย หรือฝากและถอนสินทรัพย์ดิจิทัล
Zipmex อัพเดทสถานการณ์ แจงขั้นตอนเร่งดำเนินการนำสินทรัพย์มาคืนลูกค้า
ในขณะที่ทางด้านของ Zipmex เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และล่าสุดเพิ่งได้ออกมาอัพเดทสถานการณ์ เพื่อแจงขั้นตอนเร่งดำเนินการนำสินทรัพย์มาคืนลูกค้าที่มีอยู่ 5 ประเด็นดังนี้
1. แจ้งความคืบหน้าในการลงทุน โดยเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 2565 บริษัทได้มีการประกาศด้านการลงทุนว่า ขณะนี้บริษัทได้มีการลงนามใน MOU เรียบร้อยแล้ว ลำดับถัดไปจะเป็นการทำ Due Deligence หรือตรวจสอบสถานะการเงิน ความสำคัญของ MOU คือเป็นจุดเริ่มต้นการพิจารณาข้อตกลงระหว่างกัน ซึ่งทาง Zipmex จะทำการอัพเดตให้ลูกค้าทราบถึงสถานการณ์การเจรจาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ทว่าตอนนี้ทางบริษัทยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อบริษัทที่เข้ามาลงทุนได้เนื่องจากติดข้อกำหนดในสัญญาทางกฎหมาย
2. การประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ ทาง Zipmex ได้มีการติดต่อและแจ้งอัพเดตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อย่างต่อเนื่อง ทั้งโดยวาจาและส่งเอกสาร เพื่อความโปร่งใส ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ (25 ก.ค.) บริษัทได้ทราบถึงความเคลื่อนไหวที่ลูกค้าได้รวมตัว เดินทางไปร้องเรียนที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 แล้ว ทางบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจ บริษัทได้มีการส่งตัวแทนเพื่อเข้ารับฟังปัญหา และได้ชี้แจงข้อมูลเพื่อคลายความกังวล
“เรายืนยันมาตลอดว่าเราทำทุกอย่างอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา กับทุกท่านตามที่เราได้สัญญาไว้”
3. การคลายความกังวลของลูกค้าเพื่อแก้ไขสถานการณ์อย่างโปร่งใส ทางบริษัทชี้แจงว่า ได้ทำการนำสินทรัพย์ดิจิทัลไปฝากไว้ที่ Babel Finance และ Celsius เท่านั้น ไม่ใช่เป็นการลงทุน ตั้งแต่เปิดให้บริการ ZipUp+ จนเมื่อ 13 มิ.ย. ทาง Celsius ได้มีการระงับถอนเงินจากแพลตฟอร์ม ทาง Zipmex ได้ทำการประสานงานขอรายละเอียดเพิ่มเติม ขณะเดียวกันบริษัทพิจารณาจากงบดุล ณ ตอนนั้น ทาง Zipmex สามารถรองรับการสูญเสียที่เกิดขึ้นได้
ในส่วนของ Babel Finance ที่ได้มีการระงับการถอน ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการยื่นล้มละลายแต่อย่างใด ทาง Zipmex ได้มีการพูดคุยประสานอยู่ตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ผลการเจรจาเป็นไปในเชิงลบ ทางบริษัทได้แจ้ง ก.ล.ต. และแถลงการณ์ให้ลูกค้าในทันทีในวันเดียวกันนั้น และทางบริษัทได้ตัดสินดำเนินคดีความกับทาง Babel Finance
4. การให้บริการและอนาคตของเหรียญ ZMT รวมถึงราคา ZMT ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยรวมถึง ภาวะเศรษฐกิจและคริปโตที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง แต่ ZMT ซึ่งเป็น Native Token ของ Zipmex ก็ยังมี usecase มาเรื่อย ๆ เพราะบริษัทยังคงมี Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ในฐานะของ Exchange บริษัทได้ทำการนำเหรียญหลายเหรียญกลับมาซื้อขายตามปกติได้แล้ว ซึ่งภายในสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้าก็จะเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ และได้มีการอนุมัติให้ถอนผ่าน Trade Wallet ได้ตามปกติ ทั้งนี้ บริการและสินทรัพย์ใน Trade Wallet ของลูกค้าก็ยังใช้ได้ตามปกติ
ระหว่างนี้ Zipmex อยู่ระหว่าง การจัดทำศูนย์ให้บริการสายด่วน (Hotline) เพื่อให้การช่วยเหลือทุกคน คาดว่าจะเสร็จภายในสัปดาห์นี้
5. การนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาคืนลูกค้า ตอนนี้ Zipmex กำลังเริ่มดำเนินการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาคืนให้กับลูกค้าอย่างเร่งด่วน และจะมีการรายงานสถานการณ์ให้ลูกค้าทราบตลอดเวลา ทั้งการดำเนินคดีความ และเรื่องที่เกี่ยวกับการลงทุนในบริษัท
อย่างไรก็ตามในขณะที่รายงานข่าวอยู่นี้ ในส่วนของ Z Wallet ยังคงปิดให้บริการและลูกค้าส่วนใหญ่ก็ยังไม่สามารถถอนสินทรัพย์ออกมาได้ ซึ่งทางเราก็คงต้องรอติดตามข้อมูลอัพเดทความคืบหน้าของ Zipmex กันต่อไป ว่าทางเว็บเทรดจะมีวิธีดำเนินการแก้ปัญหานี้อย่างไร
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ , piriya33