จากที่ทราบกันเป็นอย่างดีแล้วว่า วันที่ 1 สิงหาคม หรือซึ่งก็คือวันนี้ ผู้เสียหายจากกรณี Zipmex ได้นัดรวมตัวเพื่อยื่นข้อมูลรวมถึงหาข้อสรุปจากทาง ก.ล.ต. โดยล่าสุดเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา นางสาวรื่นฤดี สุวรรณมงคล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกมาพบกับกลุ่มผู้เสียหาย และเป็นคนรับข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ZipUp+ ด้วยตัวเอง
นางสาวรื่นฤดี กล่าวว่า ทาง ก.ล.ต. ไม่ได้นิ่งนอนใจและดำเนินการและได้เรียกให้ทาง Zipmex ได้ออกมาชี้แจงข้อมูลอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามนั่นเป็นข้อมูลผู้ประกอบการ และวันนี้ นางสาวรื่นฤดี ก็รู้สึกดีใจที่ได้รับข้อมูลรวมถึงหลักฐานจากทางฝั่งของผู้เสียหายบ้าง เนื่องจากการรับข้อมูลของทั้ง 2 ฝั่งนั้น จะสามารถช่วยกันหารือถึงทางออกและข้อสรุปที่จะเกิดขึ้น และสามารถนำข้อมูลข้อทุกฝ่ายมาพิจารณาให้ครอบคลุมในประเด็นที่เกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
โดยปัจจุบัน ก.ล.ต. ได้ตั้งข้อสังเกตว่า Zipmex อาจเข้าข่ายความผิด 3 ประการ
1. ผิดกฎ Trading Rules คือระงับการซื้อขายในบัญชีซื้อขายโดยไม่มีเหตุอันควร เช่น การบำรุงรักษาระบบหรือเพิ่มความปลอดภัยในระบบ เนื่องจาก Zipmex ขออนุญาตซื้อขาย 24 ชม. 7 วัน ซึ่ง ก.ล.ต. ได้แจ้งให้ Zipmex เปิดซื้อขายทุกเหรียญในระบบเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ข้อมูลจากผู้เสียหายพบว่าเหรียญบางสกุลยังไม่สามารถที่จะทำการซื้อขายได้ การหารือครั้งนี้จะช่วยให้ทราบข้อมูลจากฝั่งผู้ใช้งาน/นักลงทุน
2. เข้าข่ายประกอบธุรกิจอื่นที่ ก.ล.ต. ไม่ได้อนุญาต โดยเฉพาะ Zipup+ ที่ได้นำเอาสินทรัพย์ของนักลงทุนโอนไปที่บริษัทแม่ที่สิงค์โปร์ แม้ว่า ก.ล.ต. ได้เรียกข้อมูลธุรกรรมจาก Zipmex ไปแล้ว ก็ได้เรียกตัวเลขเบ็ดเสร็จ หรือแบบ Lum Sum ทำให้พิจารณาความเสียหายได้ยาก
ตัวแทน “กลุ่มผู้เสียหายจาก Zipmex Thailand” ที่เข้ามาหารือในวันนี้ จะทำให้ ก.ล.ต. สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูล ที่จะสามารถเห็นถึงข้อมูลที่สามาถเชื่อมโยงกันได้ของ Zipmex Thailand และบริษัทแม่ที่สิงคโปร์ได้ละเอียดขึ้น แบ่งกลุ่มผู้เสียหายและความเสียหายได้ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ Zipup+ ที่มีความเชื่อมโยงกับแพลตฟอร์มต่างชาติอย่าง Babel Finnance และ Celsius Network ก.ล.ต.ได้รับทราบข้อมูลจากผู้ประกอบการไม่ชัดเจนทั้งข้อมูลธุรกรรม ไทม์ไลน์การดำเนินการ ตลอดจนการโฆษณา ในส่วนนี้ข้อมูลจากผู้เสียหายจึงเป็นข้อมูลสำคัญที่จะทำให้ทาง ก.ล.ต. ได้สามารถตรวจสอบได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น
3. ความผิดตามกฎหมายอื่น ๆ ก.ล.ต. ได้ประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ อย่าง ตำรวจไซเบอร์
ทั้งนี้ต้องพิจารณากันทีละประเด็นเนื่องจากความผิดอื่นจะไม่เข้า พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ ก.ล.ต.
ทั้งนี้มีการถามว่าเบื้องหลังของแพลตฟอร์มอย่าง Zipmex นั้นมี “ตระกูลใหญ่” เป็นที่ปรึกษาและผู้ถือหุ้น Zipmex จะส่งผลต่อการทำงานของ ก.ล.ต. ทำให้ ก.ล.ต. ทำงานลำบากหรือไม่นั้น
นางสาวรื่นฤดียืนยันว่า การที่มีตระกูลใหญ่เป็นแบ็กนั้นไม่มีผลอะไรในการทำงานของ ก.ล.ต. เพราะ ก.ล.ต. นั้น ทำงานตามอำนาจหน้าที่ ภายใต้ พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัล
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ