รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของประเทศ Pankaj Chaudhary ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า คณะกรรมการบังคับใช้กฎหมายของอินเดียกำลังสืบสวน WazirX กระดานเทรดของอินเดีย เพื่อตรวจสอบว่า กระดานเทรดนี้ ได้ทำการฟอกเงินมูลค่า 2,790 สิบล้านรูปีของอินเดีย (มากกว่า 350 ล้านดอลลาร์) ผ่านแพลตฟอร์มของตนหรือไม่
กระดานเทรด WazirX ซึ่งได้ดำเนินการในฐานะบริษัทในเครืออิสระของ Binance ถูกกล่าวหาว่าละเมิดบทบัญญัติของพระราชบัญญัติการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ พ.ศ. 2542 (FEMA) หลังจากการสอบสวนพบว่า ทรัพย์สิน crypto มูลค่าประมาณ 350 ล้านดอลลาร์ถูกส่งไปยังกระเป๋าเงินที่ไม่รู้จัก
หน่วยงานกำกับดูแลกำลังตรวจสอบ WazirX ใน 2 กรณีที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินด้วยคริปโต ในกรณีหนึ่ง นั้นคือ WazirX ถูกกล่าวหาว่าได้ใช้โครงสร้างพื้นฐานเพื่อปิดกั้น Binance ไม่ให้สามารถเห็นถึงสิ่งที่ได้ “บันทึกไว้ในบล็อคเชน”
ทั้งนี้ Chaudhary ยังคงเรียกร้องให้มีการควบคุมอุตสาหกรรมคริปโตในระดับโลก โดยเขากล่าวว่า
“กรอบนโยบายใดๆ เกี่ยวกับคริปโตจะมีผลก็ต่อเมื่อได้รับความร่วมมือระหว่างประเทศ โดยมีการประเมินความเสี่ยงและผลประโยชน์ และวิวัฒนาการของอนุกรมวิธานและมาตรฐานทั่วไป”
ในระหว่างการสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตของอินเดีย (Enforcement Directorate) ได้ออก Show Cause Notice (SCN) ให้กับทาง WazirX เพื่อสั่งให้ผู้บริหารปรากฏตัวต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าให้การ ในกระบวนการสอบสวนต่อไป
เว็บเทรด WazirX และหน่วยงานกำกับดูแลของอินเดีย
ในปี 2019 ทาง Binance ได้เข้าซื้อกิจการ WazirX และมีหลายกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลของอินเดียเรียกร้องให้ไม่ปฏิบัติตามแนวทางการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการฟอกเงิน
ในเดือนมิถุนายน ปี 2021 กระดานเทรด WazirX ได้ถูกสอบสวนโดย ED เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า มีส่วนช่วยเหลือในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนที่ผิดกฎหมายมูลค่าราว ๆ 27.90 พันล้านรูปี (381.93 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) จากการสอบสวน ชาวจีนได้ทำการฟอกเงินโดยกำหนดเส้นทางผ่านเว็บเทรด WazirX หลังจากแปลงเป็น USDT
อย่างไรก็ตาม Nischal Shetty และ Siddharth Menon ผู้ร่วมก่อตั้ง WazirX ได้ออกมาปกป้องกระดานเทรดของตัวเอง โดยอ้างว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายที่บังคับใช้ทั้งหมด
อีกทั้งยังมีรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า ผู้ร่วมก่อตั้งกระดานเทรด ได้ย้ายที่อยู่ไปอยู่ที่ดูไบแล้วเรียบร้อย เนื่องจากกฎระเบียบในด้านคริปโตนั้นเข้มงวดขึ้นเป็นอย่างมาก
อินเดียเริ่มไม่เป็นมิตรกับอุตสาหกรรมคริปโต
หลังจากที่ก่อนหน้านี้อินเดียที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรกับคริปโต โดยการมีไม่เก็บภาษี Crypto แต่อย่างไรก็ตามเหมือนความเป็นมิตรนั้นจะสิ้นสุดลงไปแล้ว
โดยความพยายามครั้งแรกของอินเดียในการสั่งห้าม คือเมื่อเดือนเมษายน ปี 2018 เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ “การคุ้มครองผู้บริโภค ความสมบูรณ์ของตลาด และการฟอกเงิน อย่างไรก็ตาม คำตัดสินดังกล่าวถูกยกเลิกโดยคำพิพากษาของศาลฎีกาในเดือนมีนาคม 2020
แต่ในเดือนกรกฎาคม รัฐบาลได้ปรับการใช้คริปโตอย่างเข้มงวดมากขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยเรียกเก็บภาษี 30% จากรายได้ คริปโต และอัตราหักภาษีที่ ณ ที่จ่าย (TDS) อีก 1% ซึ่งสิ่งนี้ทำให้วอลลุ่มในการเทรดในตลาดคริปโตของอินเดียลดลงอย่างมาก โดย WazirX ได้รายงานตัวเลขลดลงเมื่อเทียบปีต่อปีที่ 74%ในเดือน มิถุนายน
การสำรวจติดตามผลโดย WaxirX และ Zebpay เปิดเผยว่า 83% ของนักเทรดคริปโต ลดความถี่ในการซื้อขายลง เนื่องจากมาตรการภาษีที่รุนแรง
แม้จะมีการเรียกร้องให้มีการลดภาษี แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Pankaj Chaudhary ยังคงยืนยันว่า นโยบายการเก็บภาษีจะยังคงอยู่ต่อไป ในขณะที่ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) และยังคงพยายามที่จะใช้ภาษีเป็นมาตรการกีดกันไม่ให้นักลงทุน ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง