Vitalik Buterin CEO ของ Ethereum และผู้ร่วมพัฒนาเครือข่ายได้อธิบายคุณลักษณะใหม่ที่อาจปรากฏบนเครือข่าย Ethereum ซึ่งเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า Stealth Address
Stealth Address ทำงานอย่างไร?
Stealth Address ของกระเป๋าเงินดิจิทัลคือที่อยู่กระเป๋าสตางค์แบบใช้ครั้งเดียวโดยไม่เปิดเผยตัวตน เนื่องจากที่อยู่กระเป๋าสตางค์ของสกุลเงินดิจิทัลนั้นเปิดเผยต่อสาธารณะจึงทำให้สามารถติดตามธุรกรรมและเชื่อมโยงไปยังที่อยู่ของคุณได้ ดังนั้น Stealth Address จะทำหน้าที่เป็นพร็อกซีสำหรับที่อยู่กระเป๋าเงินของคุณ
Stealth Address ประกอบด้วยแฮชของที่อยู่ของผู้ใช้ รหัสโทเคน และพารามิเตอร์ลับเฉพาะสำหรับผู้ใช้ โดยสินทรัพย์จะถูกเก็บไว้ในที่อยู่ของผู้ใช้ในแผนผังแฮชที่มีข้อมูลบล็อกเชนส่วนตัว
ทั้งนี้บัญชีแยกประเภทสาธารณะที่ไม่มีเทคโนโลยี Stealth Address จะถูกเรียกกว่า “pseudo-anonymous” ซึ่งหมายความว่าที่อยู่นั้นเชื่อมโยงกับบุคคลบางคนที่ไม่เป็นที่รู้จักต่อสาธารณะ แต่ด้วยความช่วยเหลือของการวิเคราะห์ บล็อกเชน เราสามารถเชื่อมต่อจุดทั้งหมดและกำหนดว่าใครอยู่เบื้องหลังที่อยู่ได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามผู้ใช้บางรายและบริษัทขนาดใหญ่ต้องการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจในธุรกรรมขนาดใหญ่ที่ไม่จำเป็นหรือแม้แต่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย ด้วยเหตุผลนี้จึงมีสกุลเงินดิจิทัลที่สามารถซ่อนที่อยู่ได้ เช่น Monero และ Litecoin ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมส่วนตัวที่ซ่อนผู้รับหรือผู้ส่ง
เหตุใดจึงต้องซ่อนที่อยู่
ทั้ง Vitalik Buterin และนักพัฒนาที่แนะนำคุณลักษณะใหม่สำหรับการใช้งานในรูปแบบโทเคน ERC-721 ซึ่งถูกใช้กับ NFT แต่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากผู้ที่ชื่นชอบการกระจายอำนาจ
อย่างไรก็ตามด้วยการใช้กลไกความปลอดภัยเพิ่มเติม โทเคน Soulbound ที่ใช้รูปแบบโทเคน ERC-721 จะกลายเป็นนิรนามโดยสมบูรณ์ ซึ่งทำให้ปลอดภัยสำหรับการใช้งานมากขึ้น ในขณะเดียวกันการซ่อนที่อยู่มักจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจาก SEC และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง