<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ประเทศที่ Bitcoin ถูกกฏหมาย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

1.การใช้ Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมายหมายความว่าอย่างไร

ประชาชนจะสามารถใช้ Bitcoin เป็นรูปแบบการชำระเงินได้ หาก BTC ได้ถูกกฏหมายในเขตอำนาจศาลของตน

ธนาคารกลางและหน่วยกำกับดูแลของประเทศมักจะตัดสินว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกกฎหมายภายในเศรษฐกิจของตน ซึ่งหมายความว่ารูปแบบมูลค่าใด ๆ ที่พวกเขาเห็นว่าเหมาะสมที่จะเป็นการประกวดราคาตามกฎหมายจะสามารถนำมาใช้เพื่อชำระค่าสินค้าที่ร้านค้าได้ ตัวอย่างเช่น ธนบัตร 10 ดอลลาร์ และเหรียญ 0.50 ดอลลาร์ เป็นเงินที่ถูกกฎหมายในสหรัฐอเมริกา

การทำใช้ Bitcoin ถูกกฏหมาย หมายถึง เมื่อมีคนต้องการจ่ายค่ากาแฟหนึ่งถ้วย พวกเขาสามารถใช้ BTC เพื่อจ่ายได้ หากธนาคารกลางไม่มีการประกาศว่า Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย ความเสี่ยงในการยอมรับ BTC สำหรับสินค้าที่ขายจะอยู่ที่เจ้าของร้าน แต่หากธนาคารกลางได้ประกาศอย่างชัดเจนว่า Bitcoin จะเป็นเงินที่ถูกกฎหมาย มันจะกลายเป็นรูปแบบการแลกเปลี่ยนมูลค่าอย่างเป็นทางการภายในระบบเศรษฐกิจ

การเพิ่มขึ้นของ Cryptocurrency สกุลต่าง ๆ ที่กระจายอำนาจได้ ทำให้ธนาคารกลางหลายแห่งมองหา Fiat Currency ที่เหมาะสม ด้วยเหตุนี้ทำให้หลายประเทศรวมถึงจีน สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และอินเดียต่างก็กำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางหรือ CBDC

ประเทศเหล่านี้ต้องการที่จะตรวจสอบการทำธุรกรรมย้อนหลังเพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถคำนวณภาษีได้อย่างแม่นยำ และป้องกันการฟอกเงินได้ และที่สำคัญกว่านั้นคือพวกเราต้องการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจไว้ในระบบเศรษฐกิจของตนเอง

2.ปัจจัยใดบ้างที่กระตุ้นให้ประเทศยอมรับ Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย?

โดยทั่วไปมีปัจจัยทางเศรษฐกิจระดับมหภาคที่ประเทศต้องการจัดการเพื่อที่จะนำ Bitcoin มาใช้เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย และเพื่อให้ Bitcoin ถูกกฎหมายจะต้องอาศัยวิสัยทัศน์ของผู้นำด้วย

ปัญหาเงินเฟ้อที่รุนแรง เช่นในอาร์เจนตินาและเวเนซุเอลาที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรงมาหลายปีแล้ว และสามารถแก้ได้ด้วยสกุลเงินรูปแบบหนึ่งที่สร้างมูลค่ามาจากนอกระบบเศรษฐกิจของตน

การพิจารณาอีกประการหนึ่ง คือ ขอบเขตของการรวมระบบการเงินในระบบเศรษฐกิจของตน โดบการทดลองแบบ Hyperlocal ในการสร้างระบบนิเวศบน Bitcoin ในประเทศต่าง ๆ เช่น เอลซัลวาดอร์ ก็ประสบความสำเร็จบ้างแล้ว โดย Cryptocurrency ไม่เพียงแต่ช่วยให้มีการรวมทางการเงินเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับค่าธรรมเนียมการโอนเงินอีกด้วย

นอกจากนี้ ควรสังเกตด้วยว่าระบอบการปกครองที่เปิดตัว Bitcoin อย่างถูกกฎหมาย อ้างว่าได้นำการรวมทางการเงินมาสู่ประชากร อย่างไรก็ตาม การรวมบริการทางการเงินมักจะต้องมาก่อนด้วยการเจาะระบบมือถือและอินเทอร์เน็ต หากไม่มีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล สกุลเงินดิจิทัลจะไม่สามารถแก้ปัญหาการรวมบริการทางการเงินทั้งหมดได้ด้วยตัวเอง

ดังนั้นประเทศใดบ้างที่นำ Bitcoin มาใช้อย่างถูกกฎหมาย และพวกเขาทำอย่างไร? เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกที่ใช้ Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย นอกเหนือจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคที่อธิบายไว้ข้างต้นแล้ว ประเทศยังมีผู้นำที่เต็มใจที่จะทดลองกับ Bitcoin และเขาก็มั่นใจใน Cryptocurrency ตั้งแต่นั้นมา

ประเทศที่สองที่นำ Bitcoin มาใช้อย่างถูกกฎหมายคือสาธารณรัฐอัฟริกากลางหรือ CAR โดย CAR เป็นประเทศอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ทองคำและเพชร และมีมูลค่าเศรษฐกิจมูลค่า 2.3 พันล้านดอลลาร์ แต่มีความสามารถในการรวมระบบเงินค่อนข้างต่ำ นอกเหนือจากการยอมรับ Bitcoin แล้ว ประเทศยังเปิดเผยว่า 20% ของคลังมีการถือ Sango Coin (SANGO) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่จะสะท้อนถึงสุขภาพของทรัพยากรธรรมชาติในประเทศ

3.ประเทศต่าง ๆ ตั้งใจจะยอมรับ BTC อย่างไร

ประเทศต่าง ๆ ต้องพึ่งพานโยบายทางการเงินที่มีประสิทธิภาพในการจัดการกับปัญหาเศรษฐกิจของตน ดังนั้นพวกเขาต้องการสกุลเงินที่มีความน่าเชื่อถือและมีความสามารถในการรับมือกับวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้น

ทั้งเอลซัลวาดอร์และ CAR ระบุว่าพวกเขาต้องการโอนเงินเข้าประเทศราคาถูกลง โดยประธานาธิบดีนาย Nayib Bukele ของเอลซัลวาดอร์คาดการณ์ว่าจะสามารถประหยัดเงินได้ 400 ล้านดอลลาร์ในการโอนเงิน จากการใช้ Lightning Network ของ Bitcoin โดยการโอนเงินด้วยวิธีนี้อาจมีราคาถูกวิธีการโอนเงินแบบดั้งเดิม

บนพื้นฐานเศรษฐกิจระดับมหภาคโดยทั่วไปแล้ว สกุลเงินของประเทศเหล่านี้พยายามที่จะรักษามูลค่าไว้เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ไม่นานเอลซัลวาดอร์ก็ตระหนักว่าการส่งออกส่วนใหญ่ไปยังสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงส่งผลเสียต่อประชาชนมากกว่าผลดี

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาไม่มีอำนาจควบคุมนโยบายการเงินเกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งถูกควบคุมโดยรัฐบาลกลางในประเทศอื่น ดังนั้น ประเทศจึงมองหา BTC เพื่อแก้ปัญหาหลักเกี่ยวกับการโอนเงิน และหนีจากผลกระทบการจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ

4.อะไรคือความท้าทายในการนำ Bitcoin มาใช้เป็นเงินที่ถูกกฏหมาย

อาจจะเกิดปัญหาด้านสภาพคล่องและความเสี่ยงด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับตลาดคริปโต เนื่องจากผันผวนตามตลาดหุ้นสหรัฐ ทำให้การเปลี่ยนแปลงนโยบายของ FED ส่งผลกระทบต่อราคาของ Cryptocurrency

ความท้าทายอีกประการหนึ่งคือความผันผวนของตลาดคริปโต เนื่องจาก Bitcoin ได้ลดลงมากว่า 70% จากระดับ All-Time-High ในเดือนพฤศจิกายน 2021 และทางเอลซัลวาดอร์ก็ได้มีการช้อน Bitcoin อยู่หลายครั้งแต่ราคาก็ไม่หยุดร่วง ทำให้เงินในการคลังของประเทศต้องเจอกับความผันผวนที่สูญเสียมูลค่าไปถึง 70-80% ใน 6 เดือน ทำให้ความสามารถในการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศในรับผลกระทบ

และสุดท้าย ความท้าทายจากกฏระเบียบของ Bitcoin ที่ออกโดยหน่วยงานระดับประเทศ เช่นในสหรัฐฯ ที่ออกกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ทำให้เกิดผลกระทบด้านราคาที่ส่งผลต่อทุกประเทศที่ใช้ Bitcoin เป็นเงินถูกกฏหมายหรือสกุลเงินสำรอง

5.ประเทศใดบ้างที่แบน Bitcoin และ Cryptocurrency

การแบนเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Bitcoin ไม่ใช่แนวคิดที่ดีสักเท่าไหร่ สิ่งที่ควรทำที่สุดคือการทำให้พลเมืองของตนได้ระบความรู้ ข้อมูล และข้อกำหนดที่เหมาะสมเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้งานเทคโนโลยีนี้ได้อย่างปลอดภัย

มีการห้ามใช้ Bitcoin และ Crypcurrency หลายประเทศทั่วโลก เช่นในประเทศจีนที่มีการแบน Cryptocurrency ในปี 2021 ทำให้เกิดผลกระทบต่อการขุด Bitcoin เป็ผลทำให้ Hash Rate ของ Bitcoin ลดลงในปี 2021 แต่วิกฤตนี้ก็อยู่ได้ไม่นาน เพราะมีนักขุดหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาในสหรัฐอเมริกา

ในปี 2022 ประเทศอินเดียก็ได้มีการแบน Cryptocurrency และหากประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เมื่อมีการแบนสินทรัพย์ประเภทนี้ในส่วนใดของโลก อีกภูมิภาคหนึ่งจะคว้าโอกาสนั้นไว้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ามันเป็นเรื่องยากมากที่จะควบคุมการเติบโตของ Bitcoin และ Cryptocurrency

ประเทศที่ต้องการที่จะแบน Cryptocurrency เพื่อปกป้องพลเมืองของตนที่เป็นนักลงทุนรายย่อยมักจะไม่ประสบความสำเร็จ สิ่งที่ควรทำที่สุดคือการร่วมมือและให้ความรู้แก่นักลงทุน เพื่อปกป้องเขาความไม่รู้เท่านั้นในเทคโนโลยี

Source : CoinTelegraph