ในที่สุดเหรียญมีมยอดนิยมอย่าง Shiba Inu (SHIB) ก็สามารถเอาชนะกราฟ ก่อตัวขึ้นเป็นรูปแบบ “cup-and-handle” ได้เสียที ทำให้ราคาของเหรียญ SHIB มีโอกาสที่ราคาจะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
เหรียญ SHIB พุ่งขึ้นกว่า 50%
โดยปกติ รูปแบบกราฟ cup-and-handle จะปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อราคาลดลงและเพิ่มขึ้นในวิถีรูปตัวยู และตามด้วยการเคลื่อนตัวแบบไซด์เวย์หรือลดลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาที่พุ่งขึ้นแต่ยังไม่สามารถเบรคแนวต้านไปได้
ซึ่งการที่จะหลุดจากกราฟในรูปแบบ cup-and-handle ไปได้นั้นก็ต่อเมื่อราคาสามารถทะลุแนวต้าน ได้อย่างเช่น ในวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ราคาเพิ่มขึ้นราว ๆ 27% ทำให้ราคาของ SHIB นั้นอยู่ที่ระดับราคา $0.000016
ตามกฎของการวิเคราะห์ทางเทคนิค เป้าหมายในการ cup-and-handle ถูกกำหนดโดยการวัดระยะห่างระหว่างจุดต่ำสุดของรูปแบบและจุดต่ำสุดของแนวต้าน และสามารถ Breakout แนวต้านได้ เป็นผลให้ราคา SHIB พุ่งไปที่ราคา $0.00002253
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ราคา SHIB นั้นหรืออาจจะพุ่งอีก 50% ในเดือนกันยายน
การพุ่งขึ้นของราคาแบบไร้เหตุผล
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ราคาระหว่างวันของ Shiba Inu นั้นพุ่งขึ้นราว ๆ 27% โดยไม่มีเหตุผล อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ทำให้ราคาของเหรียญ SHIB พุ่งขึ้นอาจเพราะตัวชี้วัดที่แสดง อัตราการเผาไหม้ของเหรียญ SHIB ที่ได้เพิ่มขึ้นเป็น 825% ภายในหนึ่งวัน
นอกจากนี้ หลังจากที่ Binance ประกาศเพิ่มการสนับสนุนเหรียญ SHIB ในบัตรชำระเงินที่ออกในยุโรป ยังเป็นแรงกระตุ้นที่สำคัญในการเพิ่มความน่าสนใจให้กับเหรียญ SHIB ในแง่ของการค้นหาผู้ใช้ใหม่ในพื้นที่สกุลเงินดิจิทัลของยุโรปอีกด้วย
Tom Bulkowski นักวิเคราะห์รุ่นเก๋ากล่าวว่า การก่อตัวขึ้นของรูปแบบ cup-and-handle นั้นมีความเป็นไปได้ถึง 61% ที่ราคาของ Shiba จะบรรลุเป้าหมายกำไรตามที่คาดหวัง
ดังนั้น การเบรค cup-and-handle รวมถึงการทดสอบแนวต้านที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 วัน (200-วัน EMA; คลื่นสีน้ำเงินในแผนภูมิด้านล่าง) ใกล้กับราคา $0.00001755 แสดงให้เห็นแล้วว่ากราฟของ SHIB อาจมีการปรับฐานลดลงทดสอบระดับราคา $0.00001306 อีกครั้งหนี่ง
การเซ็ตตัวของรูปแบบ cup-and-handle นั้นอาจกลายเป็นโฆฆะได้ เนื่องจาก RSI บ่งชี้ให้เห็นว่ากราฟกำลังทำ overbought โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Indicator RSI ได้พ้นเส้น 70 ซึ่งโดยทั่วไปแล้วส่งผลให้เกิดการรวมตัวหรือการปรับฐานหรือการเปลี่ยนเทรนด์เป็นกราฟไซด์เวย์
ที่มา : cointelegraph