หน่วยงานระหว่างรัฐบาล สหประชาชาติ (UN) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนา กำลังสั่งห้ามไม่ให้ให้ตลาดที่เกิดขึ้นมาใหม่นำคริปโตมาใช้
การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTD) เตือนว่า การนำคริปโตมาใช้ในประเทศกำลังพัฒนาอาจเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพทางการเงิน การระดมทรัพยากรภายในประเทศ และความปลอดภัยของระบบการเงิน
“แม้ว่าสกุลเงินดิจิทัลส่วนตัวเหล่านี้จะให้รางวัลแก่บางส่วนและอำนวยความสะดวกในการโอนเงิน แต่ก็เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่ไม่เสถียร ซึ่งอาจก่อทำให้เกิดความเสี่ยงและต้นทุนทางสังคมได้เช่นกัน”
โดยมีการอ้างถึงบทสรุปนโยบาย 3 ข้อที่ออกมาเพื่อเจาะลึกถึง ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลและความเสี่ยง หน่วยงานได้กล่าวว่าการถือครอง crypto อาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียเงิน
UNCTD กล่าวว่า สินทรัพย์ดิจิทัลอาจเป็นอันตรายต่ออำนาจอธิปไตยทางการเงินของประเทศต่างๆ เมื่อใช้เป็นช่องทางในการชำระเงินและในขณะที่สกุลเงินในประเทศที่ไม่เป็นทางการแพร่หลายมากขึ้น โดยกล่าวว่า Stablecoin มีความเสี่ยงต่อประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่มีความต้องการสกุลเงินสำรองที่ไม่ได้รับการตอบสนอง
“ด้วยเหตุผลด้านความเสี่ยงในการเน้นย้ำความแตกแยกทางดิจิทัลในประเทศกำลังพัฒนา UNCTAD จึงเรียกร้องให้ทางการเร่งออกธนบัตรและแจกจ่ายเงินสด”
UNCTD กล่าวว่า crypto ยังมีปัญหาในเรื่องของการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลยังไม่สามารถระบุตัวตนเจ้าของมันได้โดยง่าย
นอกจากนั้นหน่วยงานได้เรียกร้องให้ทางการดำเนินการตามนโยบายเพื่อควบคุมการใช้ crypto ในประเทศที่กำลังพัฒนา
ซึ่งรวมถึงการควบคุมแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล การจำกัดโฆษณาที่เกี่ยวข้องในด้านคริปโต การเปิดตัวระบบการชำระเงินดิจิทัล การจัดการกับนโยบายภาษีสำหรับคริปโต และการปรับปรุงการควบคุมเงินทุนโดยคำนึงถึงลักษณะการกระจายอำนาจและลักษณะนามแฝงของสินทรัพย์ดิจิทัล
ที่มา : dailyhodl