ราคา Bitcoin ได้ร่วงลงมาอีกครั้ง และนักวิเคราะห์คนหนึ่งได้ออกมาบอกว่าขาลงมันยังไม่จบ
ตลาดคริปโตในช่วงนี้ได้ร่วงอย่างรุนแรง ทำให้นักลงทุนหลายรายเริ่มมีกำไรเริ่มลดลง
เป็นผลทำให้ราคา Bitcoin ที่กำลังฟื้นตัวจากราคา 20,000 ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันอย่างมาก
ราคา Bitcoin ในร่วงอย่างรุนแรงเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยได้ร่วงลงมาต่ำกว่า 21,500 ดอลลาร์ โดยลดลงถึงมากกว่า 10% ในเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาของ Bitcoin ได้ลดลงมาถึง 14%
การร่วงของราคา Bitcoin เกิดขึ้นทันทีหลังจากราคาพุ่งไปที่ 25,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน มิถุนายน
การร่วงของ Bitcoin ทำให้ตลาดคริปโตร่วงตาม
การร่วงของราคา Bitcoin ทำให้มีนักเทรดพอร์ตแตกไปมากกว่า 5 ร้อยล้านดอลลาร์ ในช่วง 24 ชั่วโมง โดยอ้างอิงข้อมูลจากทาง Coinglass
การร่วงของราคาอย่างรุนแรงทำให้นักเทรด Bitcoin พอร์ตแตกรวมกันถึง 202 ล้านดอลลาร์ และตามด้วยนักเทรด Ethereum ที่พอร์ตแตกรวมกันถึง 133 ล้านดอลลาร์
ณ วันที่ 19 สิงหาคม Market Cap ของตลาดคริปโตได้กลับมาอยู่ที่ 1.05 ล้านล้านดอลลาร์ โดยได้ลดลงถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงทีผ่านมา โดยอ้างอิงข้อมูลจาก CoinMarketCap
อัตราเงินเฟ้อของเยอรมันทำให้ Bitcoin ราคาร่วง ?
จากการวิเคราะห์เบื้องต้นระบุว่า ราคาของ Bitcoin ลดลงในช่วงคืนวันศุกร์ ซึ่งสัมพันธ์กับสถิติอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีที่สูงผิดปกติ โดยในเดือนกรกฏาคมอัตราเงินเฟ้อได้พุ่งไปถึง 37% ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 32%
นาง Susannah Streeter นักวิเคราะห์การลงทุนและการตลาดอาวุโสของ Hargreaves Lansdown ได้อธิบายว่า
“การร่วงของราคาในรอบนี้มาจากความกลัวว่าจะเข้าสู่สภาวะตลาดซบเซา แม้ว่าราคา Bitcoin ที่ราคา 21,800 ดอลลาร์ ยังคงอยู่เหนือระดับต่ำสุดในเดือนมิถุนายนที่ราคา 19,000 ดอลลาร์ แต่ความผันผวนของตลาดกลับสร้างความหายนะอีกครั้ง”
ในขณะเดียวกัน ร่วงของตลาดคริปโตน่าจะเกี่ยวข้องกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ในเดือนหน้า และกิจกรรม DeFi ที่ลดลง
จากรายงานของ Wall Street Journal นาย James Bullard ประธานธนาคารกลางของ St. Louis คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะขึ้น 0.75% ในสิ้นเดือน
สำนักข่าว Reuter ได้รายงานว่า นาง Mary Daly ประธานธนาคารกลางสหรัฐแห่งซานฟรานซิสโก ก็ระบุว่าอัตราดอกเบี้ยจะขึ้น 0.75% เช่นกัน
Source : Bitcoinist