ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดคริปโตได้เห็นการร่วงลงอย่างรุนแรง เมื่อช่วงวันที่ 26 ส.ค. ที่ผ่านมา ภายหลังจากคำปราศรัยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ ซึ่งได้ออกมาเน้นย้ำถึงจุดยืนที่เฉียบขาดของธนาคารกลาง สำหรับความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ย ในไม่ช้า
ราคา Bitcoin ร่วงลดลงประมาณ 14% ในเดือนนี้ ทำให้มีผลตอบแทนแย่ที่สุดในเดือนสิงหาคมนับตั้งแต่ปี 2015 เมื่อราคาลดลง 18.67% และนั่นอาจถือเป็นข่าวร้ายสำหรับนักลงทุน เนื่องจากเดือนกันยายนมีสถิติการขาดทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 6% มานับตั้งแต่ปี 2013 อ้างอิงตามข้อมูลจาก CoinGlass
แม้ว่าการเทรดในช่วงตลาดขาลงจะไม่ใช่กลยุทธ์ที่ดีที่สุด แต่ในช่วงเวลานี้นักเทรดสามารถจับตาดูเหรียญ Altcoin ที่โดดเด่นเอาไว้อย่างใกล้ชิด เพราะในกรณีที่ตลาดมีการกลับตัว เหรียญ Altcoin อาจเป็นตัวเลือกที่ได้ดีกว่าและให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า Bitcoin
โดยในบทความนี้เราจะมาดู 4 เหรียญคริปโตที่มีแววโดดเด่นและอาจฟื้นตัวพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง หากตลาดคริปโตกลับตัวมาเป็นช่วงตลาดอีกครั้ง
BTC/ USDT
การรีบาวด์ที่อ่อนแอจากบริเวณแนวรับสำคัญ บ่งชี้ว่าตลาดช่วงขาขึ้นทำให้นักลงทุนยังลังเลที่จะซื้อขายในบริษัทดังกล่าว ตลาดช่วงขาขึ้นสามารถปกป้องแนวรับได้สำเร็จเป็นเวลาหลายวัน แต่ไม่สามารถผลักดันราคากลับขึ้นไปยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA ราย 20 วัน ($21,806) ได้
ราคาที่ร่วงลดลงอย่างหนักในวันที่ 26 ส.ค. ทำให้ตัวชี้วัด EMA 20 วันแสดงให้เห็นถึง เส้นที่ลาดชันลงและ RSI อยู่ใกล้กับโซน Oversold ส่งสัญญาณถึงบรรยากาศช่วงขาลงที่กลับมาครอบงำตลาดคริปโตอีกครั้ง
BTC/USDT อาจจะร่วงลงทดสอบโซนแนวรับที่แข็งแกร่งระหว่าง 18,910 ถึง 18,626 ดอลลาร์ หากราคาร่วงทะลุจากโซนแนวรับเส้นประตามภาพด้านบน
ฝั่งผู้ซื้อพยายามผลักดันราคากลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 50 วัน ($22,340) หากพวกเขาทำได้สำเร็จ คู่ BTC/USDT อาจมีราคาเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 25,211 ดอลลาร์
แต่ในทางกลับกัน หากราคาร่วงทะลุต่ำกว่า 18,626 ดอลลาร์ BTC/USDT อาจร่วงลงไปทดสอบจุดต่ำสุดของวันที่ 18 มิถุนายนที่ 17,622 ดอลลาร์ อีกครั้ง
MATIC/USDT
Polygon (MATIC) ได้เห็นเห็นดีดตัวขึ้นจากบริเวณแนวรับที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นว่าฝั่งผู้ซื้อกำลังปกป้องแนวรับนี้อย่างแข็งขัน สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ราคามีการไซด์เวย์อยู่ในกรอบแคบ ๆ ไปอีกสักพัก
ฝั่งผู้ซื้อกำลังพยายามผลักดันราคาของแต่ละเหรียญขยับขึ้นมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย moving averages
ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า แรงกดด้านการขายอาจจะเริ่มลดลง สัญญาณเชิงบวกอีกประการหนึ่งคือดัชนี RSI ได้ส่งสัญญาณ Bullish Divergance ซึ่งเป็นสัญญาณว่าฝั่งผู้ซื้อกำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ
หากผู้ซื้อสามารถผลักดันให้ราคา MATIC/USDT ยืนเหนือแนวต้านที่ระดับ $0.84 ได้สำเร็จ ราคาอาจดีดตัวขึ้นไปทดสอบระดับ $0.91 ต่อไป และบริเวณนี้อาจทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งอีกครั้ง
ATOM/USDT
Cosmos ( ATOM ) เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่มีเติบโตได้อย่างโดดเด่น เนื่องจากในขณะนี้มีการซื้อขายอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 50 วัน (10.58 ดอลลาร์) และอยู่ใกล้แนวรับทางจิตวิทยาที่ 10 ดอลลาร์
จากกราฟ คาดว่าฝั่งผู้ซื้อจะปกป้องโซนแนวรับระหว่าง 10 ดอลลาร์และเส้นค่าเฉลี่ย SMA 50 วันอย่างแข็งขัน โดยหากราคาสามารถดีดตัวออกจากโซนนี้และยืนเหนือเส้น EMA ราย 20 วัน ($ 11.39) สิ่งนี้อาจเป็นการส่งสัญญาณแล้วว่า แรงกดดันด้านการขายเริ่มชะลอตัวลดลงแล้ว
และหากราคาของเหรียญ ATOM/USDT สามารถพุ่งขึ้นยืนเหนือระดับแนวต้านที่ $12.50 และต่อมาที่ 13.45 ดอลลาร์ได้ การเบรคราคาในครั้งนี้อาจบ่งชี้แล้วว่า แนวโน้มขาลงรอบนี้อาจจบลงแล้ว
ตรงกันข้ามกับสมมติฐานนี้ หากราคาร่วงทะลุแนวรับบริเวณนี้ ราคาก็อาจเริ่มมีการปรับฐานที่ลึกขึ้นและราคาของเหรียญก็อาจลดลงไปที่ 8.50 ดอลลาร์ต่อไป
XMR/USDT
Monero ( XMR ) เป็นอีกเหรียญที่อยู่ในลิสต์ เพราะสามารถรักษาระดับแนวรับที่ $142 ได้ในทันทีที่ราคาร่วงลงมาทดสอบ สิ่งนี้แสดงให้เห็นเห็นว่า ระดับแนวรับนี้กำลังดึงดูดความสนใจของฝั่งผู้ซื้อ
หากผู้ซื้อสามารถผลักดันราคายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 20 วัน ($ 153) ได้สำเร็จ สิ่งนี้แสดงว่าการปรับฐานอาจสิ้นสุดลงแล้ว และราคาอาจพุ่งกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 158 ดอลลาร์ และ $174
ในทางกลับกัน หากราคากลัวตัวและร่วงทะลุบริเวณแนวรับที่แข็งแกร่งแถว ๆ 142 ดอลลาร์ ราคาเหรียญอาจร่วงกลับลงไปทดสอบที่ราคา $132 และเส้นค่าเฉลี่ย EMA ราย 20 วัน ($117) ที่อยู่ใกล้เคียง
CHZ/USDT
สำหรับเหรียญ Altcoin ที่น่าจับตามอง ตัวสุดท้ายนี้ก็คือ Chiliz (CHZ) ซึ่งได้แสดงกรณีของช่วงขาขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สามติดต่อกันแล้ว หลังจากการปรับฐานครั้งล่าสุด
ผู้ซื้อสามารถผลักดันราคาให้ยืนเหนือระดับแนวต้านที่ 0.26 ดอลลาร์ ได้ในวันที่ 23 ส.ค. และ 24 ส.ค. แต่พวกเขาไม่สามารถรักษาระดับที่สูงขึ้นได้ ตามที่เห็นไส้เทียนสีแดงลากยาวจากกราฟ ซึ่งสิ่งนี้อาจดึงดูดให้นักเทรดเลือกตัดสินใจจะทำกำไรในระยะสั้น
อย่างไรก็ตามผู้ซื้อยังคงพยายามดิ้นรนผลักดันให้ราคากลับขึ้นไปยืนเหนือระดับแนวต้านที่ 0.26 ดอลลาร์ อีกครั้ง และหากพวกเขาทำสำได้เร็จ ราคาอาจพุ่งขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $0.33
ในทางกลับกัน หากราคาร่วงลดลงที่จุดนี้และทะลุแนวรับเส้น EMA ราย 20 วัน ความได้เปรียบของฝั่งผู้ซื้อจะตกเป็นของฝั่งผู้ขายทันที และราคาอาจร่วงกลับลงไปทดสอบที่เส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 50 วัน (0.15 ดอลลาร์) ต่อไป
บทวิเคราะห์ในบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และทาง Siamblockchain จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับการลงทุนได้รับความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากคำแนะนำในบทความนี้
ที่มา :cointelegraph.com