<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Mark Zuckerberg กล่าวว่า “ทำ Metaverse ดีกว่าทำ Facebook หลายขุม” ไม่ต้องตื่นมาตอนเช้าเหมือนโดนต่อย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในรายการพอดคาสต์เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta Facebook และเจ้าของรายการ Joe Rogan ได้มีการพูดคุยกันเกือบสามชั่วโมงเกี่ยวกับข้อหัวสนทนาที่หลากหลาย เกี่ยวกับเรื่องโลกเสมือน การเซ็นเซอร์ของสื่อโซเชียลมีเดีย และการเมืองของอเมริกา 

โดยในระหว่างการสนทนา   Zuckerberg อ้างว่า Meta ได้ใช้เงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพื่อต่อสู้กับการบิดเบือนข้อมูลและงาน “ป้องกัน” ด้านอื่นๆ ของบริษัท

“เราใช้เงิน 5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี…ในการทำงานด้านความซื่อสัตย์ของชุมชน” เขากล่าว

Zuckerberg ยังพูดถึงเรื่องเทคโนโลยี VR และ Metaverse ซึ่งได้รับกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ มาโดยตลอด นับตั้งแต่ที่ Meta ได้ริเริ่มโปรเจกต์นี้

Zuckerberg กล่าวว่า เทคโนโลยี VR จะสามารถเข้าถึงผู้คนได้ “เทียบเท่ากับ Playstation หรือ Xbox” ลองจิตนาการถึงอนาคตที่ผู้คนสวมชุดหูฟังที่ร้านกาแฟ โดยเขายังกล่าวอีกว่า วันหนึ่งวัตถุทางกายภาพจำนวนมากในโลกแห่งความเป็นจริงจะถูกแทนที่ด้วยโฮโลแกรม “เราสามารถแจกไพ่โฮโลแกรมให้กันและกัน และเราสามารถเล่นโป๊กเกอร์ร่วมก้นได้ทุกที่” เขากล่าว

แม้จะมีกระแสวิจารณ์มากมายเกี่ยวกับ Facebook และเทคโนโลยี VR  แต่เขาได้มีการบอกเป็นนัย ๆ ว่าความคิดริเริ่มใหม่ของ Meta จะส่งผลดีต่อการชีวิตของคนทั่วโลกแน่นอน

“เมื่อคุณตื่นนอนตอนเช้า มองไปทที่โทรศัพท์ของตัวเอง ได้รับข้อความเป็นล้านข้อความ… ส่วนใหญ่เป็นข้อความที่ไม่ดี” Zuckerberg กล่าว “มันเหมือนตื่นนอนตอนเช้าแล้วก็โดนต่อยที่ท้องเข้าอย่างจัง”

นอกจากนั้นเขายังอธิบายต่อว่า metaverse เหมาะใช้ในชีวิตประจำวันของผู้คน “คุณอาจบอกได้ว่าเราใช้เวลาชั่วโมงแรก ในการพูดคุยเกี่ยวกับ metaverse และอนาคตของการสร้างแผนงานด้านเทคโนโลยีทั้งหมดนี้ เพื่อให้ผู้คนได้สัมผัสถึงตัวตนที่แท้จริง นั่นคือสิ่งที่ผมมาทำ” เขากล่าว

อย่างไรก็ดี น่าเสียดายสำหรับ Zuckerberg ในเรื่อง metaverse VR ที่จะต้องมีการดูแลมากพอ ๆ กับ Facebook อย่างเช่น มีกรณีการล่วงละเมิดทางเพศในแพลตฟอร์ม VR ของ Meta ซึ่งเป็นเรื่องที่กระตุ้นให้บริษัทต้องสร้างโซน “ขอบเขตส่วนบุคคล”

โดยทาง Rogan ได้เริ่มถามคำถามเกี่ยวกับการบิดเบือนข้อมูล อัลกอริทึม และสิ่งที่เขามองว่าเป็นความรับผิดชอบของ Zuckerberg ที่มีต่อโลก

“ผมไม่ได้คิดแบบนั้นนะ … ผมมองว่างานของเราคือ การมอบอำนาจให้ผู้คนสามารถที่จะแสดงออกถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการและรับเนื้อหาที่พวกเขาต้องการ”

ที่มา : Vice