<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CTO ของ Bitkub ยื่นอุทธรณ์ไม่ยอมจำนนต่อคำกล่าวหา ก.ล.ต. ย้ำสู้คดีเต็มที่ ด้าน Bitkub ให้ทำหน้าที่ต่อ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากที่ ก.ล.ต. มีการลงโทษนายสำเร็จ วจนะเสถียร CTO ของ Bitkub ในช่วงเย็นที่ผ่านมา ตอนนี้ CTO ได้ออกมาเคลื่อนไหวชี้แจงพร้อมยื่นอุทธรณ์ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งได้ตามปกติ

สืบเนื่องจากข่าวสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับที่ 135/2565 เรื่อง ก.ล.ต. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 1 ราย กรณีซื้อเหรียญ KUB โดยอาศัยข้อมูลภายใน ลงวันที่ 30 สิงหาคม 2565 นั้น บริษัท บิทคับ บล็อกเชน เทคโนโลยี จำกัด (“บริษัท”)

Bitkub แจ้งต่อสาธารณชนได้ทราบว่า “นายสำเร็จ วจนะเสถียร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (Chief Technology Officer : CTO) ยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งดังกล่าวตามปกติ จนกว่าจะเกิดความชัดเจนในกระบวนการทางกฎหมาย โดยบริษัทจะติดตามและเรียนแจ้งให้ลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านทราบต่อไป

จากกรณีดังกล่าวบริษัทขอยืนยันว่า บริษัทไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว ตลอดจนการพัฒนาเครือข่าย Bitkub Chain และการดำเนินการของบริษัท ไม่ได้รับผลกระทบกับเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด

บริษัทขอเรียนให้ลูกค้าและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านทราบว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาและต่อไปในอนาคต โดยบริษัทยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเครือข่าย Bitkub Chain ตามแผนงานที่ได้ให้คำมั่นสัญญากับสาธารณะชนดังที่นำเสนอผ่านเอกสาร Whitepaper ด้วยความมุ่งหวังที่จะให้ Bitkub Chain เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแรงของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับเครือข่ายบล็อกเชนชั้นนำระดับโลก ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเข้าถึงได้และสร้างประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนอย่างเท่าเทียม และโปร่งใสต่อไป

โดยนายสำเร็จ วจนะเสถียร ได้ชี้แจงในผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยมีข้อความว่า

“ตามที่ ก.ล.ต. ได้กล่าวหาผมเรื่องการใช้ข้อมูลภายในสำหรับการซื้อเหรียญ KUB ของผม ระหว่างวันที่ 4 กันยายน 2564 จนถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 นั้น ผมอยากจะใช้ช่องทางนี้เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและความบริสุทธิ์ใจของผม ดังนี้

ผมรู้กฎหมายเรื่อง Insider trading เป็นอย่างดีว่า เวลาผมทำโปรเจค ผมก็จะซื้อ KUB ไม่ได้ ดังนั้น ผมจะมีช่วงเวลาสั้น ๆ หลังโปรเจคเปิดตัว และยังไม่ได้เริ่มโปรเจคใหม่ที่ผมจะลงทุนซื้อ KUB ได้ โดยก่อนหน้าช่วงเวลาดังกล่าว ผมอยากซื้อ KUB ในราคาที่ต่ำกว่า 30 บาท แต่ซื้อไม่ได้เนื่องด้วยผมทำโปรเจค Morning Moon ก่อนหน้านี้ สุดท้ายผมรอโปรเจค Morning Moon เปิดตัวเลยต้องซื้อ KUB ได้ที่ราคา 30 บาท – 32 บาท เพราะหากไม่ซื้อภายในช่วงเวลาดังกล่าว ผมก็จะต้องเริ่มโปรเจคใหม่ และจะทำให้ผมไม่สามารถซื้อ KUB ได้อีกนาน ส่วนเวลาก่อนหน้านี้ก็ซื้อเพื่อแลกเป็นค่าธรรมเนียมการเทรดใน Exchange ทันทีช่วงเวลาที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษ ผมเป็นผู้บริหาร BBT ซึ่งเป็นคนละบริษัทกับ Exchange ดังนั้นผมกล้าพูดได้ว่า ผมไม่รู้เรื่อง SCB Deal ใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าผมรู้ผมคงขาย WAN, SNT, BNB, Ethereum ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 4 ล้านบาทแล้ว และคงลงเงินกับ KUB ไปให้หมดไปแล้ว ซึ่งจำนวนเงินที่ผมลงทุนใน KUB ก็ใกล้เคียงกับเหรียญอื่น ๆ ที่ผมมีส่วนตัวแล้ว เป็นจำนวน 60,000 KUB ผมมองว่าจำนวนไม่ได้ผิดแปลกแต่เป็นความบังเอิญที่เป็นเวลาที่เค้าทำ Deal กันพอดี

การซื้อเหรียญ KUB ของผมมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนระยะยาว ดังจะเห็นได้ว่า หากผมซื้อเหรียญ KUB โดยมีเจตนาที่จะมุ่งหวังทำกำไรระยะสั้นแล้ว ผมคงเทขายเหรียญ KUB ทั้งหมดเพื่อทำกำไรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ผมยังไม่ได้ขายเหรียญ KUB ดังกล่าวเพื่อทำกำไรแต่อย่างใดจนถึงวันนี้ที่ผมพิมพ์ มีส่วนหนึ่งที่เอาไปแลกค่าธรรมเนียมการเทรดใน Exchange เท่านั้น

เรื่องราวทั้งหมดผมได้บอก ก.ล.ต. แล้วแต่ทาง ก.ล.ต. ก็ยังตัดสินลงโทษอยู่ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีหลักฐานชัดเจนว่าผมกระทำผิด ผมจึงจะขอต่อสู้ในกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ผมขอยืนยันว่า ผมบริสุทธิ์ใจและยืนหยัดที่จะพัฒนาเทคโนโลยีของ Bitkub Chain ต่อไป เพื่อให้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ดีและได้มาตรฐานเพื่อให้คนไทยได้ใช้งานอย่างแพร่หลาย”

อย่างไรก็ตามหากใครยังไม่ทราบ Morning Moon Village ได้เปิดให้เล่นในช่วงเดือนสิงหาคม 2021 ก่อนที่จะมีดีลกับ SCB ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2021 ซึ่งระยะเวลาห่างกันนานถึง 3 เดือนเลยทีเดียว อีกทั้ง CTO ยังไม่มีการเทขายเหรียญ KUB แต่อย่างใดจึงทำให้ CTO ของ Bitkub ต้องการชี้แจงต่อ ก.ล.ต. เพื่อแสดงความโปร่งใสที่เกิดขึ้น