<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ชายคนหนึ่งถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินให้จำคุก หลังเปิดให้บริการแลกเปลี่ยน Bitcoin แบบ P2P

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

กฎหมายของสหรัฐฯ ที่บังคับใช้ในปี 1992 ได้ตัดสินให้นายฮอปกินส์ (Mark Alexander Hopkins) หรือที่รู้จักในชื่อนามแฝงว่า Doctor Bitcoin และ Rizzn ถูกคุมตัวในเรือนจำของรัฐบาลกลาง อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มีผู้ที่ชื่นชอบ Crypto หลายคนออกมาวิพากญ์วิจารณ์ข้อกล่าวหาดังกล่าวบน Twitter ว่าไม่เป็นธรรม รวมถึงการบุกจู่โจมของ FBI ที่บ้านของทั้งคู่

ฮอปกินส์ยอมรับสารภาพว่า เขาได้ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน Bitcoin แบบ OTC  ซึ่งตามคำอธิบายในเว็บไซต์ Cointelegraph ระบุว่า ผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแบบ OTC ก็คือหน่วยงานที่ “อำนวยความสะดวกในการซื้อและขายคริปโทเคอร์เรนซีระหว่างบุคคล โดยมีบุคคลหรือบริษัททำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน” สำหรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่เกิดขึ้นภาคนอกตลาด เช่น เว็บเทรดยักษ์ใหญ่อย่าง Binance หรือ Coinbase

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ กล่าวว่า การกระทำของฮอปกินส์ได้เปิดโอกาสให้นักต้มตุ๋นดำเนินการฉ้อโกง ด้วยเงินทุนที่ฮอปกินส์ทำธุรกรรมในนามของภรรยา โดยฮอปกินส์กล่าวว่า FBI ได้บุกเข้าไปค้นบ้านเขาและพยายามยัดเยียดข้อกล่าวหาให้กับภรรยาของเขาในคดีเดียวกัน แต่ท้ายที่สุด FBI ก็ยอมยกเลิกข้อกล่าวหาต่อสมาชิกในครอบครัวของเขา เพื่อทำข้อตกลงกับฮอปกินส์

จากเอกสารคำร้องทุกข์ ฮอปกินส์ยอมรับว่า เขาทำธุรกิจการแปลงดอลลาร์สหรัฐฯ ไปเป็นสกุลเงินดิจิทัล โดยส่วนใหญ่เป็น Bitcoin และค่าธรรมเนียมบางส่วน ทั้งนี้เอกสารของ DOJ เมื่อปลายเดือนมิถุนายนระบุว่า “ฮอปกินส์ยอมรับว่า เขามักจะส่ง BTC ไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลของลูกค้า โดยไม่ต้องมีขั้นตอนยืนยันแหล่งที่มาของเงินสด” ในขณะเดียวกันฮอปกินส์ได้โพสต์ใน Twitter เพื่อเรียกร้องให้มีความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับกฎหมายทางการเงินที่ควบคุมด้วยเทคโนโลยี Blockchain เช่น Cryptocurrency อย่าง Bitcoin

“ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าทุกคนในบล็อคเชนถูกดำเนินคดีได้เพียงเพราะเกี่ยวโยงกับกองทุนที่เข้าข่ายฉ้อโกง เรือนจำก็จะเต็มอย่างรวดเร็ว” ฮอปกินส์กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา : futurism