<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

5 เหตุผลที่เผยให้เห็นว่า $17,000 อาจเป็นจุดต่ำสุดของราคา Bitcoin  

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สำหรับตลาดขาลงอันยาวนานของตลาดคริปโต หลายคนเองก็บอกว่าตลาดขาลงนั้นอาจผ่านพ้นไปแล้ว และแน่นนอนว่าจุดต่ำสุดของขาลงรอบนี้เองก็ได้ผ่านไปแล้วเช่นกัน

โดยมีผ้ใช้แพลตฟอร์ม reddit รายหนึ่งได้ออกมาแสดงความคิดเห็น โดยส่วนตัวของเขานั้นมองว่าจุดราคาต่ำสุดของ Bitcoin ได้ผ่านพ้นไปแล้วที่ราคา $17,000 โดยเขาได้ให้เหตุผลถึง 5 เหตุผลด้วยกันดังนี้

  1. สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค

ไม่มีข้อมูลเศรษฐศาสตร์จุลภาคใดสูงหรือแย่เท่ากับในเดือนมิถุนายน นอกจากนั้นการปรับตัวเลข CPI สำหรับอัตราเงินเฟ้อก็ไม่ลดลงเร็วตามอย่างที่ทาง Wall Street ต้องการ แต่ก็ได้มีการชะลอตัวจาก 9.1% เป็น 8.3% ใน 3 เดือน ซึ่งกราฟมักจะต้องเพิ่มขึ้นกลับไปที่จุดสูงสุดก่อน เมื่อขึ้นแล้วเมื่อนั้นเราถึงจะทำจุดต่ำสุดครั้งใหม่ได้

ด้านตัวเลข GDP กำลังเติบโตอีกครั้ง จากข้อมูลล่าสุดในเดือนกันยายน ข้อมูลของ Atlanta Fed เผยว่า GDP ได้เพิ่มขึ้น 1.3% และจะทำให้ราคาพุ่งขึ้นอีกครั้ง 

หมายเหตุ* GDP คือสิ่งที่วัดจากภาวะถดถอย

ในส่วนของอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำที่ 3.7% (แต่ไม่ต่ำจนเป็นอันตราย) และปี 2021 ก็มีการปรับขึ้นค่าแรงสูงที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และราคาบ้านและค่าเช่าเริ่มก็เริ่มลดลง

ดังนั้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานกำลังฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าทุกอย่างตั้งแต่น้ำมัน ไม้แปรรูป อาหารและสินค้า จะสามารถสำรองได้รวดเร็วขึ้นและลดราคาลงได้

ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่ต่ำ แต่พร้อมที่จะพุ่งขึ้นทันที ด้วยสาเหตุที่ลดลงเนื่องจากความต้องการที่ลดลง และเศรษฐกิจของจีนกำลังตกต่ำและต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์ที่ทำให้ความต้องการของน้ำมันลดลงไปอีก ในขณะที่อุปทานน้ำมันได้เพิ่มขึ้นในตลาด สาเหตุหลักมาจากเป้าหมายการผลิตที่เพิ่มขึ้น ด้านสมาชิก Opec ยังคงพยายามเล่นตามโควตาของพวกเขา ส่วนลิเบียยกเลิกการปิดกั้นน้ำมัน และห่วงโซ่อุปทานก็เริ่มฟื้นตัว

นอกจานั้นสำหรับสงครามรัสเชีย-ยูเครน ได้กลับตัวแล้ว เนื่องจากในขณะนี้รัสเซียได้สูญเสียดินแดนและกำลังถอยกลับ

อย่างไรก็ตาม ไม่มีเหตุการณ์ไหนที่จะเป็นตัวทำให้ราคา Bitcoin เคลื่อนตัวไปที่ราคา $17,000 อีกครั้ง และทุก ๆ เดือนนับจากนี้ ตลาดคริปโตจะอยู่ห่างไกลจากตัวเลขดังกล่าว และทำจุดต่ำสุดใหม่

  1. วัฏจักรของตลาดกระทิงและตลาดหมี

ปกติแล้วตลาดขาขึ้นนั้นจะมีแรงฉุดดึงราคา Bitocoin ไปสู่จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซี่งมีความรุนแรงที่น้อยลงเรื่อย ๆ โดยดูจาก ในรอบปี 2013 ราคาได้เพิ่มขึ้น x406, ส่วนในปี 2017 x109 และในปี 2021 x21

ส่วนตลาดหมีก็พาราคาจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปยังจุดต่ำสุดในแต่ละรอบ โดยนับตั้งแต่ในปี 2014 ราคา Bitcoin ลดลง 86%, ในปี 2018 ราคา Bitcoin ลดลง 83% หรือที่ระหว่าง 74%-76% หากนำ Hash Wars มาลบออกจนถึงจุดต่ำสุด Bitcoin ซึ่งลดลงมากที่สุดที่ 74%

โดยระยะเวลาในไทม์ไลน์ของราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ไปราคาต่ำสุดนั้น ใช้เวลาที่สั้นลง ซึ่งในตลาดหมีปี 2014 ใช้เวลาโดยประมาณ 405 วัน ในตลาดหมีปี 2018 ใช้เวลา 364 วัน จนถึงตอนนี้ ตลาดหมีนี้ผ่านมา 308 วันแล้ว ซึ่งจากนี้อาจจะอนุมานได้ว่าหากมีจุดต่ำสุดอีกครั้งก็จะต้องอยู่ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าหรือน่าจะเกิดขึ้นไปแล้ว

  1. ประวัติศาสตร์มักก่อให้เกิดการเรียนรู้

เปรียบเทียบกราฟราคา Bitcoin ของปี 2018 และกราฟปี 2022 

  1. ความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นไม่มีอีกต่อไป

บางครั้งสิ่งที่น่าสนใจก็คือ การที่ราคา Bitcoin นั้นไปพัวพันกับทิศทางของตลาดหุ้นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่า บางครั้ง Bitcoin ก็มักจะมีการเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับตลาดหุ้น และดูเหมือนว่าวันเวลาที่ Bitcoin ทำตรงกันข้ามกับตลาดหุ้นจะบ่อยครั้งมากขึ้นเรื่อย ๆ

ซึ่งนั่นเป็นเพราะว่า ความสัมพันธ์ของหุ้นไม่มีการเติบโตมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และมีความสม่ำเสมอในด้านราคาน้อยลง

แต่โดยปกติแล้ว Bitcoin มักจะไม่มีความความเชื่อมโยงกับตลาดหุ้น แต่หลังจากเกิดวิกฤตโควิด-19 นั่นเองที่เริ่มเห็นว่าราคา Bitcoin นั้นเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้น

ด้วยเหตุผลจากการเกิดวิฤตของโควิด-19 ตลาดกระทิงของ Bitcoin ก็เริ่มที่สอดคล้องกับตลาดหุ้นและสภาพคล่องที่เอ่อล้นเข้ามา เนื่องจากนโยบายของ Fed ด้วย

แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว และไม่ช้าก็เร็ว ตลาด Bitcoin ที่ผันผวนมากขึ้นก็จะเริ่คลายตัวอีกครั้ง เนื่องจากตลาดหุ้นไม่มีความผันผวนมากเหมือนอย่างคริปโตและมีรอบที่สั้นกว่า และคาดว่าความสัมพันธ์กันของราคาในตลาดคริปโตและตลาดหุ้นก็จะหยุดลงในที่สุด

  1. Bitcoin ยังคงอยู่วัฏจักรของมัน 

แม้ว่าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน อย่างโรคระบาดหรือการเกิดสงคราม ก็ตามแต่ Bitcoin จะเคลื่อนที่ไปตามวงจรของตัวเองอยู่เสมอ

หมายเหตุ : นี่ไม่ใช่การแนะนำการลงทุน นี่เป็นเพียงนำการวิเคราะห์จากความคิดเห็นส่วนตัวของนักเทรดท่านหนึ่งมาให้อ่านกันเท่านั้น หากท่านไหนตัดสินใจที่จะลงทุนและเกิดความสูญเสียขึ้น ทางสยามบล็อกเชนจะไม่รับผิดชอบทุกกรณี โปรดศึกษาให้ดีก่อนลงทุน

ที่มา : reddit