<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

มูลค่าตลาด Crypto ร่วงดิ่งต่ำกว่าระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ หลัง FOMC ประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Crypto และสินทรัพย์อื่น ๆ มีมูลค่าลดลงอย่างมาก สืบเนื่องมาจาก FOMC ประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงขึ้นกว่าเดิมอีก 0.1% จากเดือนสิงหาคม อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นสูง เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในสัปดาห์หน้า

ในช่วงบ่ายของวันอังคาร ราคาของ Bitcoin มีการแกว่งตัวอย่างรุนแรงร่วงแตะระดับ 20,000 ดอลลาร์ โดยมูลค่าของ Bitcoin ปรับตัวลดลงกว่า 10% นับตั้งแต่มีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ และแซงหน้าตัวเลขขาดทุนของดัชนี S&P 500 (-4.3%) และตัวเลขขาดทุนของ Nasdaq Composite (-5%) จนทำให้มูลค่าตลาดสินทรัพย์ Crypto ทั้งหมดลดลงต่ำกว่าระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตามรายงานของ Coinmarketcap เผยให้เห็นว่า  ในวันนี้มูลค่าตลาดคริปโตได้ลดลงมาอีกประมาณ 7% จนอยู่ที่ 998,000 ล้านดอลลาร์ จาก 1.07 ล้านล้านดอลลาร์ สถานการณ์นี้จึงตอกย้ำว่า อนาคตของสกุลเงินดิจิทัลยังคงขึ้นอยู่กับทิศทางของ Fed

“ความหวังที่ราคาจะร่วงลงอย่างช้า ๆ กำลังจะสิ้นสุด ตามวงจรของ FED และความสามารถในการรับมือวิกฤติก็กำลังจะหมดไป” Edward Moya นักวิเคราะห์ตลาดอาวุโสของ Oanda กล่าวให้สัมภาษณ์กับ Yahoo Finance “ดังนั้นต่อไป Crypto จะมีความเสี่ยงมากขึ้นและแรงกดดันทางการขายในระยะสั้น”

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา มีนักเทรด Bitcoin ในตลาดฟิวเจอรส์ถูก liquidated แล้วเป็นมูลค่ากว่า 329 ล้านดอลลาร์  ซึ่ง 75% มาจากการเปิด Long Position ใน Bitcoin อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Coinglass อย่างไรก็ตาม การขาย Bitcoin ในราคาถูกนั้นไม่ได้เป็นเรื่องน่าหนักใจสำหรับ Baxter Hines หัวหน้าเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Honeycomb Digital Investments 

“ในอนาคตอันใกล้นี้ Bitcoin และ Crypto อื่น ๆ มีแนวโน้มจะถูกคุกคามจากอัตราเงินเฟ้อต่อไป ทำให้ FED มีเวลามากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้” Hines กล่าวกับ Yahoo Finance

สำหรับบริษัทคริปโตที่มีความผันผวน แต่สามารถอยู่รอดได้ในตลาดจะได้เห็นโอกาสใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในเดือนนี้ โดยตามรายงานของ Nomics ดัชนี Crypto แสดงปริมาณการซื้อขายในทุกการเทรดที่เพิ่มขึ้น 62% จนอยู่ที่ 739,000 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกิจกรรมการเทรดเเพิ่มขึ้น 20% เป็น 134,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนหน้านี้

การซื้อขายที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากนักเทรดและผู้จัดการกองทุนที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการอัปเกรด Ethereum’s Merge ที่จะกำลังเกิดในช่วงปลายสัปดาห์นี้ และเกิดจากการที่นักเทรดคนอื่น ๆ กลับเข้าสู่ตลาด หลังจากมูลค่าของเหรียญ Crypto  ส่วนใหญ่เริ่มลดลงในวงกว้าง

สำหรับ Ethereum ได้มูลค่าที่ลดลงมากกว่า 6% ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง นับได้ว่าเป็นการสูญเสียผลกำไรทั้งหมดที่ได้รับจากสัปดาห์ ที่แล้ว โดย Moya จาก Oanda ชี้ให้เห็นว่า นักเทรดอาจพร้อมแล้วสำหรับการ “sell the event” ต่อจากการอัปเกรด Merge ที่รอคอยมานานในเช้าวันพฤหัสบดี

ส่วนเหรียญคริปโต 10 อันดับแรก เช่น Cardano (ADA-USD) และ Polkadot (DOT-USD) ก็ได้รับผลกระทบจากความผันผวนเช่นกัน โดยผลตอบแทนของสินทรัพย์ค่อนข้างสอดคล้องกับดัชนีหุ้น Nasdaq ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

อีกด้านหนึ่ง หุ้นของบริษัทที่ถือ Bitcoin ในงบดุลเช่น Marathon Digital (MARA), Coinbase Global (COIN), Block (SQ) และ MicroStrategy (MSTR) ได้เห็นราคาที่ร่วงลดลงและขาดทุนอยู่ที่ระหว่าง 7% ถึง 12% ในวันอังคาร 

ราคาหุ้นของ MicroStrategy ซึ่งเป็นบริษัทที่ถือ Bitcoin ในงบดุลมากที่สุด เสนอราคาซื้อขายอยู่ที่ 234 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งลดลงมากกว่า 12% นับตั้งแต่มีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อ แต่ก็ได้ฟื้นตัวเล็กน้อยในการซื้อขายหลังเวลาทำการ 

เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ของ Crypto ในช่วงครึ่งหลังของเดือนกันยายน Moya จาก Oanda คาดว่า ตลาดจะยังคงสามารถยืนหยัดอยู่ได้ หากราคา Bitcoin และ Ethereum สามารถรักษาราคาไว้ที่ระดับสูงกว่า 21,000 ดอลลาร์ และ 1,600 ดอลลาร์ ตามลำดับ

ที่มา: finance.yahoo