<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

นักลงทุนคริปโตที่เปลี่ยนเงินจาก 3 แสนเป็น 200 ล้านบาท ลั่น ‘Crypto นั้นไม่มีประโยชน์’

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

นักลงทุนรายหนึ่งที่ได้ลงทุนเงินในตลาดคริปโตไปจำนวน 10,000 ดอลลาร์ ในกระดานเทรดคริปโตอันดับ 1 ของสหรัฐฯ อย่าง  Coinbase และต่อมาตัดสินใจขายทรัพย์สินทั้งหมดของเขา และโกยกำไรไปกว่า 6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  กลับออกมากล่าวว่า คริปโตไม่มีประโยชน์และไม่ควรมีอยู่จริง แต่ทำไมเขาถึงคิดเช่นนั้นล่ะ?

Liron Shapira หนุ่มนักธุรกิจที่ผันตัวมาลงทุนในตลาดคริปโต สามารถทำกำไรได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากเงินการเทรดคริปโต ตอนนี้กลับลำเป็นนักวิจารณ์คริปโตและ มองว่าระบบนิเวศของ crypto ที่กำลังเติบโตนั้นช่างไร้ประโยชน์เสียจริง

ในช่วงแรก Shapira นั้นได้เริ่มค้นคว้าเกี่ยวกับอุตสาหกรรมคริปโตที่ University of Berkeley ในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ในปี 2007 ต่อมาเขาลงทุนเงินประมาณ 3,900 ดอลลาร์ใน Bitcoin (BTC) เมื่อ  BTC มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 5 ดอลลาร์ต่อ 1 เหรียญ และขายออกทันทีเมื่อได้รับกำไรที่เพิ่มขึ้น

เขาให้ความเห็นว่า BTC นั้นน่าสนใจเพราะจะเข้าช่วยแก้ปัญหาของการจ่ายเงินแบบ Double-Spending  ซึ่งหมายถึงการทำธุรกรรมครั้งเดียวแต่จ่ายได้มากกว่าหนึ่งครั้ง นักธุรกิจเน้นว่าบล็อคเชนไม่มีตัวกลาง ซึ่งสามารถป้องกันการใช้จ่ายซ้ำซ้อนในบัญชีแยกประเภทได้

การลงทุนคริปโตในบนแพลตฟอร์มของ Coinbase

ต่อมาในช่วงปี 2012 Lion Shapira ได้กลับลงทุนในคริปโตอีกครั้งเป็นจำนวนเงิน 10,104 ยูโร เทียบเท่ากับ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ผ่านบริษัทร่วมทุนออนไลน์อย่าง FundersClub

Shapira กล่าวว่า การลงทุนกับ Bitcoin เป็นทางออกที่ดีที่สุดในที่มันมีแนวโน้มขาขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง

และในอีกหลายปีต่อมา Shapira รู้สึกผิดหวังกับวงการคริปโตมาก ซึ่งตอนนี้ในระบบนิเวศ ผลิตภัณฑ์ที่มี ฟีเจอร์ในการให้บริการน้อยที่สุด (MVPs)

ย้อนไปในช่วงที่ Shapira ยังคงถือครอง Bitcoin อยู่บน Coinbase เขาเคยวิเคราะห์ถึง ระบบนิเวศที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต โดยพิจารณาถึงการเปิดตัวสตาร์ทอัพ Web3 

ในปี 2021 ก่อนที่ราคาหุ้นของ Coinbase จะร่วงลดลงเกือบ 80% บริษัทก็เกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับข้อหาการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลวงใน

ในขณะนั้น Shapira ขายทุกอย่างที่เขาถืออยู่บน Coinbase ซึ่งเขาได้รับเงินจำนวนทั้งหมด 6 ล้านยูโร หากเขายังคงเทรดอยู่ คาดว่า เงินลงทุนที่เขาจะได้รับ มันจะมากถึง 25 ล้านยูโรเลยทีเดียว และถ้าหากมีเขายังถือ BTC ในช่วงเวลาที่ราคา Bitcoin ซื้อขายอยู่ที่ 10 ดอลลาร์ ในปี 2012 พอร์ตการลงทุนของเขาจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว

นอกจากนั้นแล้ว Shapira ยังบอกด้วยว่า ท้ายที่สุดตลาดคริปโตนั้นจะพังทลาย นั่นจึงเป็นเหุตผลว่าทำไมเขาถึงไม่มีคริปโตในพอร์ตตอนนี้ และ เขายังตัดสินใจที่จะขายกิจการทั้งหมดเพื่อเดิมพันไปกับบริษัทที่เขาให้การสนับสนุนคริปโต ซึ่งในช่วงแรกมีหลายคนใน Twitter บอกเขาว่า เขาทำพลาดครั้งใหญ่ แต่เขาคิดว่า เขาสามารถป้องกันความเสี่ยงจากผลกำไรของเขาได้

Liron Shapira ต้องการเป็น Michael Burry แห่งอุตสาหกรรมคริปโต เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งในนักลงทุนกลุ่มแรกที่คาดการณ์ว่าจะได้รับประโยชน์จากวิกฤตของมัน

ที่มา : cryptoworldjournal