<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Arbitrum เครือข่ายโซลูชัน Layer-2 พร้อมใช้งานแล้วบนตลาด NFT ของ “OpenSea”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ตลาด NFT ชั้นนำของโลกอย่าง OpenSea ได้ประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ Layer-2 บนแพลตฟอร์มอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา  โดยหลังจากการประกาศ Arbitrum จะถูกเพิ่มบนแพลตฟอร์มเช่นเดียวกับ เครือข่ายยอดนิยมอื่น ๆ อย่าง Solana, Ethereum, Polygon และ Klaytn

OpenSea ประกาศข่าวการเปิดตัวดังกล่าวบน Twitter โดยอธิบายว่านี่เป็นขั้นแรกในการสร้างอนาคตของ Web3 บนตลาด NFT

“นี่ถือเป็นก้าวแรกในการสร้างเป้าหมายในอนาคตของ Web3 ที่ผู้คนสามารถเข้าถึง NFT บนเครือข่ายที่พวกเขาต้องการ”

OpenSea ยังระบุด้วยว่า คอลเลกชัน NFT ยอดนิยมหลายรายการ รวมถึง Smolverse, GMX Blueberry Club และ Diamond Pepes จะเป็นหนึ่งในคอลเลกชันใหม่กลุ่มแรก ๆ ที่จะลิสต์ไปยังตลาด NFT ของ Arbitrum

ทั้งนี้การรวมเครือข่ายเข้ากับ Arbitrum อาจช่วยส่งเสริมการทำธุรกรรมในตลาด OpenSea ได้เป็นอย่างมาก เพราะดูเหมือนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มวอลุ่มการซื้อขายรายเดือน 

โดยจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างมากในปีปัจจุบัน และตัวเลขปัจจุบันอยู่ไกลจากระดับสูงสุดตลอดกาลของ OpenSea ที่บันทึกไว้ในเดือนมกราคม 2022 เมื่อปริมาณการซื้อขายทะลุ 4,800 ล้านดอลลาร์ 

อย่างไรก็ตาม OpenSea ไม่ใช่ตลาด NFT เพียงแห่งเดียวที่มีการชะลอตัว โดยตลาด NFT ชื่อดังรายอื่น ๆ เช่น Rarible, SuperRare, LooksRare และ Magic Eden ต่างก็รายงานว่ามีการซื้อขายลดลงในลักษณะเดียวกัน

 ในปัจจุบันกิจกรรมซื้อขาย NFT บน Arbitrum นั้นไม่ค่อยดีนักเมื่อเปรียบเทียบกับ Ethereum โดยโครงการ NFT ส่วนใหญ่มักจะอยู่บนแพลตฟอร์มบนตลาดที่มีขนาดเล็กกว่า เช่น Agora และ Stratos อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก DeFi Llama ได้แสดงให้เห็นว่าคอลเล็กชันยอดนิยมที่สุดใน Arbitrum ได้ดึงดูดการลงทุนไปแล้วหลายล้านรายการ

ตัวอย่างเช่น คอลเลกชั่น Seed of Life บน Arbitrum มีปริมาณการซื้อขายรวม 11.79 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ Legions Genesis ทำเงินได้มากกว่า 11 ล้านดอลลาร์ในตลาด Treasure และ PancakeSwap ดังนั้นการรวมคอลเลกชันยอดนิยมเหล่านี้เข้ากับระบบของ OpenSea อาจทำให้ปริมาณการซื้อขายใน OpenSea เพิ่มขึ้นอย่างมาก


ที่มา: binance