<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อาจารย์ ตั๊ม พิริยะ เชื่อ ฤดูหนาว Crypto ไม่จบและอาจยัง “หนาวได้อีก”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลายเดือนมานี้ถือได้ว่าเป็นฤดูหนาวที่ค่อนข้างหนาวเหน็บและยาวนานมากสำหรับตลาด Crypto อย่างไรก็ตาม หนึ่งในกูรูวงการคริปโตฯ อย่างอาจารย์ ตั๊ม พิริยะ ก็ได้ออกมากล่าวในรายการ The Fiat Standard แล้วว่า “มันยังหนาวได้มากกว่านี้”

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจารย์ตั๊มกล่าวว่าสถานการณ์ก่อนหน้าที่ราคา Crypto ในตลาดต่างพากันร่วงลงมามากถึง 70-80% นั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติ แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีช่วงกระแส Hype รวมถึงมีเหตุการณ์ที่ Speculative Bubble และ Speculative Demand พุ่งขึ้นมา

หลังจากกระแสและเหตุการณ์ต่าง ๆ จบลงไปแล้ว ตลาดก็กลับมาสู่สภาพที่ควรจะเป็น โดยขณะนี้ถือว่าตลาดอยู่ในสภาพที่ยังทรงตัวอยู่ แต่ถ้าราคาหยุดร่วงลงเมื่อไร จะถือว่าฤดูหนาวนี้เป็นฤดูหนาวที่สั้นที่สุด

สำหรับประเด็นที่อาจารย์ตั๊มมองว่าน่าสนใจนั้น คือ การที่ราคาต้นทุนของ Bitcoin ลดลงไปพร้อมกับราคาในตลาด โดยสถานการณ์ที่ราคา Bitcoin กำลังลดลงในช่วงนี้ ทำให้กำลังขุดของ Bitcoin ลดลงไปด้วย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นถัดมาคือความยากในการขุด (Difficulty) จะปรับตัวให้ง่ายขึ้น และส่งผลให้ต้นทุนในการขุดลดลงในที่สุด

แม้ว่าสิ่งที่เราเห็นในขณะนี้คือการที่ราคา Crypto ในตลาดกำลังร่วงลงมาเยอะมาก และลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าหากมองดูในส่วนของการขุด Bitcoin จะพบว่ามีการขยายตัวของการขุดอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ อีกทั้งจำนวนของการขุดยังสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขั้นทำสถิติใหม่อยู่บ่อยครั้ง อาจารย์ตั๊มอธิบายว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องมาจากการที่ต้นทุนยังสามารถทำกำไรได้อยู่ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าหากคนที่รู้สึกว่าตนกำลังได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าจะต้องการเพิ่มกำลังขุดเข้าไปอย่างสม่ำเสมอ

ในอีกมุมมองหนึ่ง อาจารย์ตั๊มชี้ให้เห็นว่าการขุดที่เพิ่มมากขึ้นก็มีประเด็นของการใช้พลังงานที่เพิ่มมากขึ้นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

“สิ่งหนึ่งที่เราเริ่มเห็นในโลกของ Bitcoin คือการที่ Bitcoin บีบบังคับให้นักลงทุนไปควานหาพลังงานราคาถูก ซึ่งบางครั้งเป็นพลังงานราคาถูกที่มนุษย์ใช้ไม่ได้ด้วยซ้ำ” อาจารย์ตั๊มกล่าว

พลังงานที่ใช้ไม่ได้ในมุมมองของอาจารย์ตั๊มนั้น คือพลังงานในกลุ่ม Untapped Energy อย่างพลังงานเกรดต่ำ พลังงานที่ไม่เสถียรพอให้เราใช้งาน หรือพลังงานที่อยู่ห่างไกลเกินกว่าจะนำมาใช้

พลังงานเหล่านี้กำลังค่อย ๆ ถูกปรับให้สามารถนำมาใช้ในการผลิต Bitcoin และได้ทำให้แหล่งพลังงานที่นักขุดนำมาใช้จะไม่ใช่แหล่งพลังงานที่ต้องแย่งกับ Consumption ของพลังงานมนุษย์โดยทั่วไป

อาจารย์ตั๊มอธิบายเพิ่มเติมว่าเหตุการณ์ในข้างต้นทำให้เกิดการลงทุนทางด้านการผลิตพลังงานเพิ่มขึ้น ทั้งในส่วนพลังงานฟอสซิลและพลังงานในกลุ่ม Renew Energy เราเริ่มเห็นการผลิตพลังงานใหม่ ๆ ที่ใช้การ Mining เข้ามาทำให้มีความเสถียรภาพในการผลิตพลังงาน ซึ่งสิ่งนี้คือสิ่งสำคัญที่ซ่อนอยู่ในฤดูหนาว Crypto

ที่มา: Wealth Me Up