<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Binance เตรียมยื่นเปิดให้บริการในญี่ปุ่นใหม่อีกครั้ง หลังเคยถอนตัวออกจากตลาดไปนานถึง 4 ปี

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ครั้งล่าสุดที่ Binance เปิดดำเนินกิจการในตลาดญี่ปุ่นคือเมื่อปี 2018 ก่อนที่หน่วยงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น (FSA) จะสั่งให้หยุดการซื้อขายเนื่องจากไม่มีใบอนุญาต และเมื่อปีที่แล้ว FSA ก็ได้ออกคำเตือนไปยัง Binance อีกครั้ง เนื่องจากไม่สามารถลงทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแลได้

หลังการประกาศถอนตัวออกจากตลาดญี่ปุ่นนานกว่า 4 ปี บริษัทแลกเปลี่ยน Crypto ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Binance กำลังจะยื่นขอใบอนุญาตเพื่อกลับมาให้บริการในประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง เพราะดูเหมือนว่าทางญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะประกาศใช้นโยบายที่เป็นมิตรต่อ Web3

แหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้บอกกับ Bloomberg ว่า แนวโน้มที่เริ่มเอื้อให้กับการยอมรับ Crypto ภายในประเทศ รวมถึงโอกาสสำคัญในการมองหานักลงทุนใหม่ ๆ เป็นเหตุผลสำคัญในการกลับมายังตลาดญี่ปุ่นของบริษัท โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายใต้นโยบายของนายกรัฐมนตรีคนใหม่อย่าง Fumio Kishida ซึ่งสนับสนุนให้ญี่ปุ่นใช้นโยบายที่เป็นมิตรต่อ Web3 มากขึ้น 

การตามหาวิธีแก้ “ปัญหาทุนนิยมแบบใหม่” เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการเติบโตของประเทศที่มีความล่าช้า รวมถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เพิ่มขึ้นภายในญี่ปุ่น นักการเมืองญี่ปุ่นจึงเริ่มดำเนินการตามนโยบายที่หลากหลาย ตั้งแต่การเก็บภาษี คริปโต การส่งเสริม NFT ไปจนถึงการดึงดูดผู้มีความสามารถด้าน Crypto ให้เข้ามาลงทุนภายในประเทศ

ในการกล่าวปราศรัยเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ย่านการเงินของลอนดอน Kishida กล่าวว่า “ญี่ปุ่นจะพัฒนาสภาพแวดล้อมที่จะช่วยส่งเสริม Web3 เช่น Blockchain, NFTs และ Metaverse”

อย่างไรก็ตาม Binance ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการกลับเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่น โดย Binance บอกกับสำนักข่าว Decrypt ว่า “ไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นในการสนทนาของเรากับหน่วยงานกำกับดูแลที่เฉพาะเจาะจง เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลและผู้กำหนดนโยบาย เพื่อกำหนดนโยบายที่ปกป้องผู้บริโภค ส่งเสริมนวัตกรรม และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของเราไปข้างหน้าทั่วโลก”

สำหรับทาง FSA ของญี่ปุ่นนั้นก็ไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นของ Decrypt เช่นกัน แต่ถ้าหากการขอใบอนุญาตในครั้งนี้ประสบความสำเร็จ Binance จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรง โดยเจ้าของธุรกิจรายใหญ่อย่าง Crypto.com และ FTX ได้ดำเนินการในญี่ปุ่นแล้ว รวมถึงบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนของสิงคโปร์อย่าง Temasek ก็ได้เข้าซื้อ DeCurret บริษัทกระดานแลกเปลี่ยน Crypto และได้เปิดดำเนินการในประเทศมาแล้วตั้งแต่ปี 2018

ทัศนคติของชาวญี่ปุ่นที่เปิดกว้างและให้การยอมรับต่อ Crypto มากขึ้นนั้น ตรงกันข้ามกับประเทศอื่น ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเหตุการณ์ที่ Crypto กวาดล้างตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลไปมากถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์จนบังคับให้บริษัทหลายแห่งต้องปิดตัวลง

รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ต้องการพบเจอกับเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจึงได้มีการอนุมัติร่างกฎหมายที่บังคับให้ Stablecoins ต้องได้รับการสนับสนุนจากคำสั่งศาลเช่นเดียวกับเงินเยนของญี่ปุ่น


ที่มา: decrypt