<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อดีตผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชื่อดังคาดราคา Bitcoin จะสูงถึง 12.5 ล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

อดีตผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ได้ทำนายราคาของ Bitcoin เอาไว้สูงมาก โดยเขาคาดว่ามันจะอยู่ที่ 12.5 ล้านดอลลาร์ต่อ 1 btc ในทศวรรษหน้าหลังจากการล่มสลายของดอลลาร์สหรัฐฯ

ในการให้สัมภาษณ์กับ Altcoin Daily โดยที่ Daily Hodl ได้ทำการรายงานเป็นเจ้าแรก Robert Breedlove CEO และผู้ก่อตั้ง Parallax Digital บริษัทการลงทุนด้านคริปโตกล่าวว่าราคาของ Bitcoin จะพุ่งอย่างรุนแรงจนถึงปี 2031 ในขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้น

Robert ระบุว่าเขาได้คาดการณ์ต่อสาธารณะว่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะ “เฟ้อเป็นอย่างมากจนมูลค่าเข้าใกล้หรือลดลงจนเหลือ 0 ภายในปี 2035” และเขาเชื่อในคำทำนายของเขาแม้ในช่วงเวลานี้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) ได้มีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

นอกจากนี้เขายังได้คาดการณ์ไว้อีกว่า DXY จะมีความผันผวนเป็นอยางมากก่อนที่จะเกิดการปรับตัวลงและเขาได้คาดการณ์ในสิ่งที่สอดรับไปในทิศทางเดียวกันกับการปรับตัวลงของ DXY ซึ่งก็คือเขาคาดการณ์ราคาของ Bitcoin ที่จะพุ่งอย่างรุนแรงไปถึง 12.5 ล้านดอลลาร์

อดีตผู้จัดการรายนี้ระบุเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังกา่รพุ่งอย่างรุนแรงของราคา Bitcoin เอาไว้ว่าด้วยกำลังซื้อในตลาดที่ลดลงเป็นผลพวงมาจากการล่มสลายของเงินดอลลาร์แม้ว่า BTC จะราคาปรับตัวไปอยู่ที่ 12.5 ล้านดอลลาอย่างที่เขาคาดการณ์แต่มูลค่าของมันจะเทียบเท่า 1 ล้านดอลลาร์ตามกำลังซื้อในปัจจุบันเขาพูดว่า

“มีข้อพิจารณาอยู่ว่าราคา Bitcoin ที่ 1 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 ดอลลาร์ นั้นมันจะเทียบเท่ากับราคา 12.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงที่ผมทำนายเอาไว้”

ตามคำพูดของเขานั้นเงินในจำนวน 12.5 ล้านดอลลาร์จะไม่ซื้อสิ่งที่ซื้อได้ในราคา 12.5 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบันอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น Robert ระบุว่าหากขนมปังก้อนหนึ่งมีราคา $50 ในปี 2020 ขนมปังก้อนเดียวกันนั้นจะขายอยู่ที่ราคา $60 ในปี 2031 

เช่นเดียวกับ BTC ที่เขาพยายามจะยกตัวอย่างว่าคุณต้องควักเงิน 1 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 เพื่อซื้อ BTC แต่ด้วยกำลังซื้อที่ลดลงในปี 2031 เงินในจำนวนดอลลาร์คุณไม่สามารถซื้อ BTC ในจำนวนที่เท่ากันได้แต่คุณต้องใช้เงินกว่า 12.5 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ 1 BTC

นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมโดยอิงตามการคาดการณ์ของเขาและเขาได้ระบุว่า Bitcoin “จะไม่มีจุดสูงสุด” เพราะเงินดอลลาร์สหรัฐเฟ้อมากถึงมากที่สุดจนมูลค่ามันเป็น “ศูนย์และมันจะเฟ้อจนทำให้มันไร้ค่า”

ที่มา : Cryptoglobe