<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

CFO ของ OpenSea ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากทำงานได้เพียงแค่ 11 เดือน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Brian Roberts ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของตลาด OpenSea ได้กลายเป็นผู้บริหารระดับคนสูงล่าสุดที่ตัดสินใจก้าวลงจากตำแหน่ง ท่ามกลางสภาวะตลาดหมี หลังจากดำรงตำแหน่งได้เพียงแค่ 11 เดือน

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม อดีต CFO ของแพลตฟอร์ม Lyft และ OpenSea ได้โพสต์บน LinkedIn ว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะ “ขึ้นฝั่ง” จาก “ทะเลเปิด” แต่ไม่ได้ระบุเหตุผลที่แน่ชัดในการขึ้นจากฝั่งในครั้งนี้ เพราะเขาสังเกตเห็นว่าเขายังคงจำเป็นต้องดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของบริษัทต่อไป

Roberts ได้รับแต่งตั้งเป็น CFO ของ OpenSea ในปี 2021 หลังจากทำงานที่ Lyft เป็นเวลา 7 ปี นอกจากนี้เขายังเคยลาออกจาก Walmart บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ และบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Mircosoft หลังจากทำงานมาสักระยะหนึ่งด้วย

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Roberts เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่มีมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้จนกระทั่งถึงยุคสมัยของ Web3 รวมถึงอดีตรองประธานของ Google อย่าง Surojit Chatterjee ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Coinbase และ Pravjit Tiwana จาก Amazon หัวหน้าเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีของ Gemini

ความรับผิดชอบหลักประการหนึ่งของ Roberts ในช่วงเวลาที่เขาอยู่ใน OpenSea คือ การพัฒนาทีมการเงิน โดย Roberts ตั้งข้อสังเกตว่า “ผมมีโอกาสที่หายากในการสร้างทีมอย่างแท้จริงจากพื้นฐานและคัดเลือกผู้เปลี่ยนเกม”

ตามคำกล่าวของเขา เขาได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ CEO อย่าง Devin Finzer และรองประธานฝ่ายการเงินเชิงกลยุทธ์อย่าง Justin Jow เพื่อให้แน่ใจว่า การเปลี่ยนแปลงจะราบรื่น ซึ่งอาจบ่งชี้ได้ว่า Jow จะก้าวขึ้นมารับตำแหน่ง CFO แทน

แม้ว่า Roberts จะก้าวลงจากตำแหน่ง CFO แต่เขายังคงยืนยันว่า เขายังมีความสนใจใน Web3 อย่างมาก ทั้งนี้การจากไปของ Roberts ได้เกิดขึ้นในวันเดียวกับการที่นาย Ryan Foutty  รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจอีกคนของ OpenSea ได้ประกาศลาออกหลังจากตำแหน่งหลังทำงานได้ 18 เดือน 

Foutty กล่าวว่า บริษัทนี้มาไกล นับตั้งแต่ทำงานในห้องใต้ดินของผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Alex Atallah  

ทั้ง Roberts และ Foutty เป็นเพียงผู้บริหารบริษัทในอุตสาหกรรม Crypto สองคนล่าสุดที่ก้าวลงจากตำแหน่งหรือรับบทบาทที่ปรึกษา ท่ามกลางภาวะตลาดตกต่ำ โดยปริมาณการซื้อขาย NFT ได้ลดลงมากถึง 98% จาก 6,200 ล้านดอลลาร์จากสถิติช่วงสิ้นเดือนมกราคม ซึ่งอยู่ที่ 114.4 ล้านดอลลาร์

เห็นได้ชัดว่าช่วงเวลาดังกล่าวคือช่วงที่ตลาด NFT ประสบกับความพ่ายแพ้ และส่งผลให้เกิดการปรับลดจำนวนพนักงานลง 20% ในเดือนกรกฎาคม รวมถึงปริมาณการซื้อขายรายวันก็ลดลงอย่างมาก มูลค่า NFT ทั้งตลาดร่วงลงอย่างรวดเร็วในเดือนพฤษภาคมเนื่องจากการเริ่มต้นของช่วงตลาดหมี Crypto ที่กินระยะเวลามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ที่มา: cointelegraph