แม้ว่าจะมีความกังวลด้านพลังงานจากการขุด crypto ด้วยกลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Work แต่ตอนนี้ได้มีโครงการคริปโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยนักเคลื่อนไหวทางด้านสภาพภูมิอากาศได้รวมตัวกันเพื่อพยายามปรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้คริปโตเพื่อเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
โครงการ crypto กำลังเปลี่ยนกลไกฉันทามติจาก Proof-of-Work (PoW) สู่ Proof-of-Stake (PoS) มากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดย 3 โครงการต่อไปนี้ถือว่าเป็นโครงการ crypto ยอดนิยมของนักลงทุน
Ethereum (ETH)
Ethereum ถือเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สองของโลกตามมูลค่าตลาดรวมและเป็นที่รู้จักดีในการทำ smart contract และ DApps ซึ่งเป็นมิตรทั้งสิ่งแวดล้อมและนักพัฒนาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตามการอัปเกรด The Merge ครั้งล่าสุดที่เปลี่ยนกลไกฉันทามติแบบ Proof-of-Work (PoW) สู่ Proof-of-Stake (PoS) ทำให้เครือข่าย ETH ใช้พลังงานของเครือข่ายลดลงได้ถึง 99.95% และส่งผลให้กลายเป็นบล็อกเชนที่ใช้ปริมาณคาร์บอนต่ำทันที
ปัจจุบัน Ethereum ซื้อขายที่ 1,300.37 ดอลลาร์ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.32% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาแต่ลดลง 3.32% ในสัปดาห์ก่อนหน้าตามข้อมูลของ CoinMarketCap
Chia (XCH)
บล็อกเชน Chia กำลังสร้างแบรนด์และการตลาดเพื่อเป็นโครงการ crypto ที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมโดยใช้กลไกฉันทามติแบบ proof-of-space-and-time โดยพื้นฐานแล้วโปรโตคอลนี้จะใช้พื้นที่บนฮาร์ไดร์ฟเพื่อตรวจสอบเครือข่าย
กลไกฉันทามติแบบ proof-of-space-and-time เป็นวิธีในการตรวจสอบอีกวิธีหนึ่ง แต่ไม่ใช่การตรวจสอบการทำธุรกรรมหรอกนะ มันคือการตรวจสอบไฟล์ โดยใช้พื้นที่ของ HDD หรือ SSD ที่เราใช้เก็บข้อมูลต่าง ๆ บนคอมพิวเตอร์ เพื่อขุดเหรียญ หรือตรวจสอบว่าในไฟล์ที่เรามีอยู่ใน HDD หรือ SSD นั้นเป็นไฟล์ที่แท้จริงหรือไม่ แทนที่จะเป็นการตรวจสอบธุรกรรม และให้รางวัลเป็น crypto แทน
โปรเจกต์ Chia ได้ระบุว่าด้วยโปรโตคอลดังกล่าวทำให้เครือข่ายใช้พลังงานรายปีเพียง 0.16% ของ Bitcoin เท่านั้น
ปัจจุบัน XCH ซื้อขายที่ 31.80 ดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.94% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาแต่ลดลง 6.71% ใน 7 วันที่ผ่านตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
VeChain (VET)
Vechain กำลังทำงานภายใต้แนวคิดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งนี้เพื่อขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียผ่านโครงการต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น เช่น โครงการที่ลงนามกับรัฐบาลซานมารีโน หรือ การส่งมอบอนาคตและอาหารที่ปลอดภัยแบบตรวจสอบย้อนหลังได้
ด้วยโมเดลดังกล่าวทำให้สามารถประมาณค่าการปล่อยคาร์บอนได้ที่ 4.58 เมตริกตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการปล่อยมลพิษที่สร้างขึ้นจากการขุด BTC เพีงเครื่องเดียว
ปัจจุบัน VET ซื้อขายที่ 0.002289 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.49% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาแต่ลดลง 2.95% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาตามข้อมูลจาก CoinMarketCap
อย่างไรก็ตามการลงทุนกับคริปโตสีเขียวอาจเป็นหนึ่งในช่องทางที่นักลงทุนคริปโตใช้โดย 3 โครงการข้างต้นเป็นตัวแทนของโครงการที่ลดหรือจะผลิต CO2 น้อยที่สุด และสามารถให้อนาคตที่ดีกว่าสำหรับนักลงทุนสายรักโลก
คำเตือน: การลงทุนในเหรียญ cryptocurrency นั้นมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุนอย่างมาก ทางสยามบล็อกเชนจะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียในทุกกรณี บทความนี้ไม่ใช่บทความแนะนำการลงทุน