แพลทฟอร์ม ‘ยืมมั้ย’ หรือ Yes Token ได้ออกมาประกาศเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อ NFT เพื่อนำไปแลกกับ iPhone 14 Pro และ Pro Max ได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยเปิดแคมเปญดังกล่าวออกไปและได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก
โดยอ้างอิงจากเพจของ YES Token นั้น พวกเขาได้ออกมาประกาศว่า
“กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญสุดยิ่งใหญ่แห่งปีเอาใจสาวก Apple กับ “NFT EXCLUSIVE CAMPAIGN V.2” จากทาง YES Token ที่จะมาเขย่าวงการคริปโตฯ เปลี่ยน NFT ให้เป็น iPhone ครั้งแรกของโลก! โดยใน V.2 นี้ จะมาพร้อมกับวิธีการเข้าร่วมแคมเปญที่ง่ายขึ้น สามารถรับ iPhone ได้ทันทีหลังจากซื้อ “YES NFT” และที่สำคัญ มีจำนวนจำกัดเพียง 100 สิทธิ์เท่านั้น! พร้อมให้ทุกคนได้เข้าร่วมแคมเปญแล้วตั้งแต่วันนี้ที่ freecity.finance 🎉”
อ่านเพิ่มเติม
- Campaign สุดปังจาก YES TOKEN ร่วมรับ Iphone 14 รุ่นใหม่ล่าสุดมาใช้งานก่อนใครพร้อมกัน 14 กันยานี้!!
- ได้รับแล้ว ! iPhone 14 จากแคมเปญ “NFT Exclusive Campaign” ของโปรเจกต์ YES Token
หากให้อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือ ผู้ใช้งานสามารถนำเหรียญ KUSDT มูลค่า 1,350 เหรียญ หรือราคาประมาณ 48,900 บาท (เท่า ๆ กับ iPhone) ไปซื้อ NFT ของ YES token และหลังจากนั้นก็นำไปล็อค stake บนแพลทฟอร์ม โดยเหรียญ KUSDT จะถูกนำไปแลกเปลี่ยนเป็น YES token ณ อัตราการแลกเปลี่ยนขณะนั้นก่อนถูกล็อค และหลังจากนั้นก็นำ NFT ดังกล่าวไปแลก iPhone 14 Pro หรือ Pro Max ได้ทันที
เมื่อครบ 1 ปีผู้ใช้งานมีสองทางเลือก
- คืน iPhone 14 Pro หรือ Pro Max ให้กับทาง YES พร้อมจ่ายค่าเสื่อมสภาพ 24% ของราคา iPhone และผู้ใช้งานก็จะได้เหรียญ YES ที่ล็อค stake ไว้คืน
- เก็บ iPhone 14 Pro หรือ Pro Max ไว้ใช้งานต่อ ไม่ต้องคืน หรือเอาไปทำอะไรต่อก็ได้ตามอัธยาศัย
จะเห็นได้ชัดว่าผู้ที่เลือกวิธีที่ 1 เป็นผู้ที่ได้กำไรเหรียญ YES หลังหักค่าเสื่อมสภาพแล้ว ในขณะที่ผู้ที่เลือกวิธีที่ 2 อาจมองว่าราคา YES ลดลงจนขาดทุน และไม่อยากคืน iPhone นั่นเอง
ข้อดีของแคมเปญดังกล่าวนั้นคือให้ผู้ใช้งานที่ต้องการจะซื้อ iPhone 14 Pro อยู่แล้วสามารถลุ้นเก็งกำไรราคาเหรียญ YES ในอีกหนึ่งปีให้หลังได้ และแม้ว่าผู้ใช้งานจะขาดทุนจากราคาเหรียญ พวกเขายังมี iPhone ไว้ใช้งานอยู่ ซึ่งถือเป็นดีลที่ค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ในแคมเปญ V2 นี้ทาง YES กำหนดให้ผู้ใช้งานเลือกซื้อ NFT ได้ผ่านทางแพลทฟอร์ม freecity.finance เท่านั้น และมีโควต้าอยู่แค่ 100 เครื่อง โดยผู้ใช้งานสามารถที่จะเลือกได้ว่าจะไปรับเครื่องเองที่สำนักงานใหญ่ของ YES หรือให้มีการส่งแบบ delivery ในวันเดียวกัน (ในกรณีที่อยู่กรุงเทพฯ)