<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ผู้ก่อตั้งเว็บเทรด FTX ผุดไอเดียแก้ปัญหาการโดนโจมตีจากแฮ็กเกอร์ในตลาด Crypto

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Sam Bankman-Fried มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งเว็บเทรด Crypto FTX ได้วางกรอบการทำงานสำหรับการจำกัดผลกระทบของการแฮ็กและการใช้ประโยชน์จากช่องโหว่ในอุตสาหกรรมคริปโต รวมถึงตั้งค่าหัวสูงสุดสำหรับผู้โจมตีที่ราคาค่าหัวที่ 5 ล้านดอลลาร์

หลังจากเหตุการณ์โดนแฮ็ก  Mango Market จำใจต้องคืนเงินมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์จากเงินประมาณ 100 ล้านดอลลาร์ที่ถูกแฮ็กมา ภายใต้ข้อตกลงกับแพลตฟอร์มหลังการโจมตี โดยในปีนี้การขโมยเงินในตลาดคริปโตรายงานตัวเลขสูญเสียไปมากถึงมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นสถิติใหม่ในประวัติศาสตร์ของการแฮ็กวงการคริปโต

ด้วยเหตุนี้ Bankman-Fried ผู้ร่วมก่อตั้งกระดานเทรด FTX จึงได้เสนอแนวคิดของเขาลงในบล็อกโพสต์ ซึ่งเขาเรียกว่า “มาตรฐาน 5-5” โดยที่แฮ็กเกอร์เก็บ 5% ของจำนวนเงินที่พวกเขาได้รับจากโปรโตคอลหรือ 5 ล้านดอลลาร์ หรือจำนวนใดก็แล้วแต่ 

โดยเงื่อนไขคือ ลูกค้าต้องได้รับการคุ้มครองโดยสมบูรณ์และแฮ็กเกอร์จะต้องทำการแฮ็กโดย “สุจริต” และตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะให้ความร่วมมือและส่งคืนทรัพย์สินส่วนใหญ่ในโลกคริปโต เพราะบางครั้งผู้โจมตีถูกมองว่าเป็นแฮกเกอร์หมวกขาวที่พยายามเปิดเผยช่องโหว่เพื่อแลกกับรางวัลมากกว่าที่จะแสวงหาผลกำไร

“การแฮ็กเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัล” Bankman-Fried เขียนโดยการเพิ่มแนวทาง 5-5 ของเขาจะควบคุมผลกระทบของการแฮ็ก “มากกว่า 98%” แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจว่า มาตรฐานที่ถูกต้องเป็นอย่างไร

ข้อมูลจาก Chainalysis Inc. ผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชน แสดงให้เห็นว่า การเจาะระบบส่วนใหญ่ในปีนี้ได้มุ่งเป้าไปที่การเงินแบบกระจายศูนย์ หรือ DeFi โปรโตคอล DeFi ที่นำเสนออัลกอริธึมที่ช่วยให้นักลงทุนคริปโตสามารถซื้อขาย ยืม และให้ยืมบัญชีแยกประเภทดิจิทัลได้โดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง

การโจมตีที่เกิดขึ้นจำนวนมากทำให้ผู้เล่นคริปโตต้องรับผิดชอบในการหาวิธีแก้ปัญหา เนื่องจาก DeFi ถูกขนานนามว่า มีความสำคัญต่อการนำโทเค็นดิจิทัลไปใช้ในวงกว้าง ซึ่งกำลังตกต่ำลงจากภาวะตลาดคริปโตที่ตกต่ำในปีนี้

แนวคิดของ Bankman-Fried เป็นส่วนหนึ่งของโพสต์ที่กล่าวถึงประเด็นต่าง ๆ เช่น การคว่ำบาตร การแปลงเหรียญของหุ้น และการเปลี่นให้สินทรัพย์กลายเป็นหลักทรัพย์

ที่มา : bnnbloomberg