<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

Ink Finance ประกาศเปิดตัวระบบกำกับดูแล DAO รูปแบบใหม่ ผ่านการ Stake เหรียญ “QUILL”

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

สำหรับองค์กรส่วนใหญ่ การส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการอย่างปลอดภัยผ่านบล็อกเชนอาจเป็นเรื่องท้าทายที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อุปสรรคด้านกฎระเบียบ และอุปสรรคในการพัฒนา ความท้าทายนี้จะชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่มุ่งเน้นกิจกรรมกู้ยืมสินเชื่อทางการเงินโดยพิจารณาจากเครดิตและชื่อเสียง

แต่ด้วยการถือกำเนิดขึ้นของ Ink Finance สิ่งนี้จะเข้ามาช่วยกำหนดให้การลงทุนที่สำคัญในโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาต้องมีการใช้ DAO เพื่อช่วยสร้าง backbone ที่แข็งแกร่งและมีความโปร่งใสสำหรับการดำเนินงานทางการเงินและการพัฒนาชุมชน

ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือเป็นกุญแจสำคัญ เมื่อพูดถึงการดำเนินงานบนบล็อกเชน ดังนั้น Ink Finance จึงเลือกใช้เฉพาะมาตรการด้านความปลอดภัยและความวางไว้ใจของบุคคลที่สามที่ดีที่สุด (ผ่านการรวมเข้ากับโมดูล) เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ Sybil และการกระทำที่เป็นอันตรายอื่น ๆ มาตรการเหล่านี้อาจเข้มงวดเทียบเท่าการตรวจสอบบัญชีโซเชียลมีเดีย หรือเข้มงวดเท่ากับการยืนยันตัวตนทางกฎหมายและ biometric

นอกเหนือจากเรื่องความสมบูรณ์และการต่อต้านการโจมตีแบบ Sybil แล้ว Ink Finance ยังช่วยให้ DAO สามารถกำหนดรูปแบบการตั้งค่าโปรไฟล์สมาชิกในลักษณะที่เหมือนกับ SBT (Soulbound Token) ที่ด้านบนของส่วน “stake to govern” อกีด้วย ซึ่งกลไกนี้จะปูทางให้กับนักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันที่มุ่งเน้นในเรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ใช้แพลตฟอร์ม Ink Finance เป็นหลัก

แม้ Ink Finance จะถูกมองว่า แพลตฟอร์มกำกับดูแล DAO ร฿ปแบบเดียวกับที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เสนอเป็นให้กับผู้ใช้งาน แต่สิ่งที่ทำให้ Ink Finance ต่างออกไปคือ การรองรับภารกิจบางส่วนที่มีความแปลกใหม่ รวมทั้งวิธีการแบบแยกส่วนยังทำให้แอปพลิเคชันที่อ่อนไหวต่อกฎระเบียบจำนวนมากสามารถปฏิบัติตามได้ง่าย ๆ โดยไม่มีขั้นตอนยุ่งยาก ดังนั้นจึงสามารถขจัดสิ่งกีดขวางที่สำคัญในแง่ของการยอมรับ Web3

Ink Finance จะทำให้ “QUILL” เป็นโทเค็นยูทิลิตี้ที่ใช้ในระบบ DAO เพื่ออำนวยความสะดวกโดยจะต้อง stake โทเค็น QUILL สำหรับการเปิดใช้งานคุณสมบัติดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ QUILL กลายเป็นรูปแบบหนึ่งที่ใช้ในการกำกับดูแลคลังของ DAO 

อย่างไรก็ตามผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมในการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินสามารถถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ และผู้ให้บริการจัดการสินทรัพย์สามารถถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมได้ผ่านกระบวนการโหวตลงคะแนนที่กำกับดูแลโดย Meta DAO ของ Ink Finance และหลังจากหักค่าบำรุงรักษาแพลตฟอร์มแล้ว ค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่งจะถูกนำไปใช้ในการซื้อโทเค็น QUILL คืน เพื่อผลักดันมูลค่ากับในตัวเหรียญในอนาคต

ปัจจุบัน Ink Finance เสร็จสิ้นการระดมทุนไปแล้วทั้ง 2 รอบ ได้มูลค่าทุนรวมกว่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งยังได้สร้างความร่วมมือกับยักษ์ใหญ่หลายรายในอุตสาหกรรมบล็อกเชน รวมถึง Republic Advisory Services (RAS) และ Alliance DAO ( DeFi Alliance) ซึ่งจะช่วย Ink Finance ด้วยกลยุทธ์การเข้าสู่ตลาดและการบูรณาการระบบนิเวศ Republic Capital ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ RAS ผ่านกองทุน Crypto Fund 1 ที่เป็นผู้นำการจัดหาแหล่งเงินทุนแต่เพียงผู้เดียว และกองทุน DeFi Alliance Flagship Fund ในเครือ Alliance DAO ที่เข้าร่วมในรอบการจัดหาเงินทุนเชิงกลยุทธ์

Ink Finance เพิ่งเปิดตัวเว็บแอปเวอร์ชันเบต้า ซึ่งกำลังได้รับการทดสอบโดย DAO ยอดนิยมบางแห่งที่มุ่งมั่นจะใช้ Ink Finance รวมถึง Mirror World, Polytrade, Solv Finance เป็นต้น

จากความวุ่นวายล่าสุดที่มีอยู่ในระบบ DeFi คาดว่าการเงิน Web3 ที่มุ่งเน้นสินเชื่อจะได้รับการยอมรับจากสถาบันและนักลงทุนมากขึ้น และ Ink Finance ก็อยู่ในตำแหน่งที่มีกลยุทธ์สำคัญต่อภาคส่วนนี้

หากสนใจสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ink Finance ได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้ :

คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

บทความนี้เป็นเพียงบทความรีวิวข้อเท็จจริงของโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับ Crypto เท่านั้น ทางสยามบล็อกเชนไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อชักชวนให้มีการลงทุนแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรศึกษาก่อนตัดสินใจลงทุนอย่างมีวิจารณญาณ