<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

‘ธนาคารกลางเอเชีย’ นำร่องทดสอบใช้ mBridge แพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลข้ามพรมแดน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า กลุ่มธนาคารกลางในเอเชียหลายแห่งกำลังช่วยกันพัฒนาแพลตฟอร์มที่ใช้บล็อคเชนเพื่อทำให้การโอนเงินดิจิทัลข้ามพรมแดนสามารถทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากปัจจุบันธนาคารกลางเอเชียในหลาย ๆ ประเทศกำลังเร่งพัฒนาเงินสกุลเงินดิจิทัลของตัวเองที่เรียกว่า CBDC

การทดสอบโปรเจกต์นำร่องดังกล่าวจะมีชื่อเรียกว่า mBridge โดยจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงเข้ากับธนาคารกลางฮ่องกง ไทย จีน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งได้รับการพัฒนาโดย Bank for International Settlements สถาบันการเงินระดับโลกที่ทำงานเพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการสนับสนุนระหว่างธนาคารกลาง

ทั้งนี้ตามรายงานของ BIS ที่เผยแพร่เมื่อวันพุธระบุว่า การนำร่องโปรเจกต์ดังกล่าวจะมีการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) มูลค่า 12 ล้านดอลลาร์ขึ้นบนแพลตฟอร์ม 

รัฐบาลทั่วโลกกำลังพัฒนา CBDC ซึ่งเป็นรูปแบบดิจิทัลของสกุลเงิน fiat โดยใช้ blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีรูปแบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับ cryptocurrencies เช่น Bitcoin ซึ่งเป้าหมายหลักคือ การทำให้การชำระเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่ต้องหลีกเลี่ยงความผันผวนมากของสกุลเงินดิจิทัล

ในช่วง 6 สัปดาห์ในเดือนสิงหาคมและกันยายน ธนาคารพาณิชย์ 20 แห่ง ซึ่งรวมถึง HSBC, Bank of China, Bangkok Bank และ First Abu Dhabi Bank ได้ประสานงานธุรกรรมการชำระเงินที่ประสบความสำเร็จทั้งสิ้น 164 รายการและการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศมูลค่ารวมกว่า 22 ล้านดอลลาร์ในนามของลูกค้าองค์กรในการทดลองใช้ CBDCs ออกบน mBridge

“ด้วยการจัดหาแพลตฟอร์มที่ใช้ร่วมกันซึ่งผู้เข้าร่วมดำเนินการชำระเงินแบบ Peer-to-Peer โดยตรงในความปลอดภัยของเงินของธนาคารกลางในหลายเขตอำนาจศาล และประสบความสำเร็จได้แสดงถึงความสามารถของแพลตฟอร์มในการปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพการชำระเงินข้ามพรมแดน และเพื่อลดความเสี่ยงในการชำระบัญชี ในสภาพแวดล้อมจริง” BIS กล่าวในรายงาน

สำหรับธุรกรรม 3 ประเภทที่ได้รับการทดสอบระหว่างโครงการนำร่องได้แก่ การออก CBDC ระหว่างธนาคารกลางและธนาคารพาณิชย์ในประเทศ, การชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคารพาณิชย์ และการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศข้ามพรมแดนระหว่างธนาคารพาณิชย์

ธุรกรรมระหว่างโครงการนำร่องส่วนใหญ่ประกอบด้วย การชำระเงินขององค์กรสำหรับการชำระดุลการค้าระหว่างประเทศของสินค้าและบริการ โดยใช้สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง หยวนจีน บาทไทย และเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในเวอร์ชัน CBDC

โครงการ mBridge สร้างขึ้นจากโครงการนำร่องก่อนหน้านี้ที่อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์ในฮ่องกงและไทยดำเนินการโอนเงินแบบเพียร์ทูเพียร์ขั้นพื้นฐานได้

ตามรายงานระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนำร่องล่าสุดพบว่า เทคโนโลยี mBridge ได้ช่วยเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของการชำระเงิน ความโปร่งใสที่ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการชำระบัญชี 

ทั้งนี้ BIS กล่าวว่า mBridge จำเป็นต้องได้รับการขัดเกลาและปรับปรุงก่อนที่จะพร้อมสำหรับการเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเสริมว่าอีก 2 ปีข้างหน้าโครงการจะมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงเครื่องมือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและการรวมธุรกรรมและเครื่องมือการจัดการสภาพคล่อง

ขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและความชัดเจนทางกฎหมายก็ต้องทำให้สามารถยอมรับการชำระเงินด้วย CBDC ระหว่างประเทศบน mBridge ได้อย่างกว้างขวาง และเพื่อปลดล็อกศักยภาพของสกุลเงินดิจิทัล BIS กล่าว

“การขยายการเข้าถึงเงินของธนาคารกลางโดยส่งตรงไปยังผู้เข้าร่วมจากต่างประเทศและการทำธุรกรรมในบัญชีแยกประเภทที่ใช้ร่วมกันนั้นจำเป็นต้องมีการสำรวจนโยบาย ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล และการพิจารณาการกำกับดูแลเพิ่มเติม”

อย่างไรก็ตามในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีโครงการ CBDC เกือบ 100 โครงการ ตามรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ 10 ประเทศที่ได้เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของตัวเอง โดยจีนเตรียมขยายโครงการนำร่องของ e-yuan ภายในปีหน้า ในส่วนของประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอินเดีย และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าในปีนี้เพื่อพัฒนาหรือดำเนินการนำร่องสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง

ที่มา : nikkeiasia