Meta บริษัทแม่ของโซเชียลมีเดียชื่อดังอย่าง Facebook รายงานว่า Reality Labs แผนก metaverse ของบริษัทได้ขาดทุนรายได้ไปเป็นกว่า 3.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้
ซึ่งนั้นทำให้ตัวเลขการขาดทุน นับตั้งแต่ไตรมาสแรกจนถึงปัจจุบันของ Reality Labs รวมทั้งหมดอยู่ที่ 9.4 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดีทาง Meta คาดการณ์ว่าผลขาดทุนจากการดำเนินงานของ Reality Labs” จะไม่เพิ่มขึ้นมากนักในปีหน้า หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือจะขาดทุนน้อยลงนั่นเอง
Meta กล่าวว่า Reality Labs สามารถสร้างรายได้ 285 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ ลดลงจาก 558 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มธุรกิจ “Family of Apps” ของบริษัท
นอกเหนือจาก Reality Labs แล้ว Meta ยังคงสร้างรายได้จากการโฆษณาอย่างต่อเนื่อง ด้วยธุรกิจแอปหลักอย่าง Facebook และ Instagram อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทำเงินได้ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว มูลค่าตลาดของ Meta ร่วงลดลงเหลือต่ำกว่า 350 ล้านดอลลาร์
ปีนี้ทั้งปีต้องบอกเลยว่าไม่ใช่ปีทองของ Meta จริง ๆ เนื่องจาก Meta ยังคงให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่าง metaverse ที่ไม่ได้สร้างผลกำไรให้กับบริษัท
ล่าสุด หนึ่งในผู้ถือหุ้นของ Meta อย่าง CEO ของ Altimeter Capital Management ได้แนะนำในบล็อกโพสต์ว่า บริษัทควรปรังลดพนักงานลงอย่างน้อย 20% นอกเหนือจากการลดการลงทุน โดยหลัก ๆ แล้วคือ การจำกัดค่าใช้จ่ายของ Reality Labs ให้ไม่เกิน 5 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ซึ่ง Zuckerberg ก็ได้บอกกับพนักงานว่า Meta จะหยุดการจ้างงานและปรับโครงสร้างทีมเพื่อลดต้นทุน
ในระหว่างพูดคุยถึงรายได้ของบริษัทกับนักวิเคราะห์ Mark Zuckerberg กล่าวว่ากลยุทธ์ metaverse ของเขาเป็นความพยายามของบริษัทในการพัฒนาธุรกิจเสมือนจริง โดยเขากล่าวถึงความทะเยอทะยานของ Meta รวมถึงการริเริ่มการวิจัยและพัฒนาที่มุ่งสู่การพัฒนาความสมจริงและเทคโนโลยีส่วนต่อประสานประสาท
“ฟังนะ ผมเข้าใจว่าหลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับการลงทุนนี้ [ใน metaverse] แต่ผมสามารถบอกได้เลยว่า นี่จะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก” Zuckerberg กล่าว “ผมคิดว่ามันจะเป็นความผิดพลาดสำหรับเราที่จะไม่มุ่งเน้นไปที่ประเด็นใด ๆ เหล่านี้ ซึ่งผมคิดว่าจะมีความสำคัญในขั้นพื้นฐานต่ออนาคต”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแพลตฟอร์มนี้มีอายุเพียงแค่หนึ่งปี และด้านตัวเลขผู้ใช้เองก็ดูน้อยเมื่อเทียบกับ Facebook และ Instagram ซึ่งมีผู้ใช้ประมาณ 4 พันล้านคน
ทั้งนี้ Zuckerberg เองก็ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ใน Meta Connect เพื่อรวมแพลตฟอร์ม Metaverse เข้ากับการทำงานในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งรวมถึงการประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Microsoft, Accenture และ Zoom และแน่นอนว่ามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงกลยุทธ์ของ Meta ตามมาหลายครั้ง แต่นักวิเคราะห์เองก็คาดการณ์ว่า metaverse นั้นจะมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ในอนาคต
ที่มา : theblock