<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ราคา MATIC พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงกว่า 200% หลัง Instagram, JPMorgan นำเครือข่าย Polygon ไปใช้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน ราคา Polygon ได้กลายเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบดีที่สุดในบรรดา cryptocurrency อันดับต้น ๆ เนื่องจากความสนใจของตลาด ได้มุ่งเป้าไปที่การประกาศล่าสุดของ Instagram และ JPMorgan

Polygon เป็นพาร์ทเนอร์ที่มีชื่อเสียง

Meta เป็นบริษัทแม่ของ Instagram ได้ยกให้ Polygon กลายเป็นพาร์ทเนอร์รายแรกสำหรับการเปิดฟีเจอร์ NFT ที่กำลังจะมีขึ้น ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้สร้าง จัดแสดง และวางขายของสะสมดิจิทัลทั้งในและนอกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

ในขณะเดียวกัน ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan ได้นำเอาเครือข่าย Polygon มาใช้เพื่อทำการซื้อขายจริงเป็นครั้งแรก (มูลค่าประมาณ $71,000) บนบล็อคเชนสาธารณะ ซึ่งเป็นก้าวแรกที่เป็นรูปธรรมในการประยุกค์คริปโตเข้ากับกรอบทางการเงินแบบดั้งเดิม

กิจกรรมการใช้งาน MATIC และการ staked โทเค็นภายในระบบนิเวศ Polygon เพิ่มขึ้นมากกว่า 13% เป็น 0.985 ดอลลาร์หลังจากการประกาศ ประกอบกับวอลุ่มการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในแต่ละวัน

การเคลื่อนไหวของ MATIC นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นตัวในวงกว้างในภาค crypto ที่เริ่มขึ้นในกลางเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ราคาของ MATIC ยังดีดตัวขึ้นมากกว่า 200% ซึ่งเป็นแนวโน้มที่จะคงอยู่ต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ราคาของ MATIC ใกล้ breakout

ในกราฟรายวัน MATIC ได้ก่อตั้งขึ้นเป็นรูปแบบกราฟแบบ cup-and-handle ซึ่งประกอบด้วยการเซ็ตกราฟเป็นตัว U ตามด้วยเส้นแนวโน้มขาลง ทั้งนี้ราคาของโทเค็นกำลังใกล้ที่จะทะลุเหนือช่วง neckline ของรูปแบบ (แถบสีแดงในแผนภูมิด้านล่าง) เพื่อพุ่งไปถึงราคา $2.89 ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการกลับตัวของราคา

ตามกฎของการวิเคราะห์ทางเทคนิค เป้าหมายของรูปแบบกราฟแบบ cup-and-handle จะถูกวัดหลังจากเพิ่มระยะห่างระหว่างก้นถ้วยและการเบรคตัวออกจากเส้น neckline ที่อาจเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงมีการคาดการณ์ว่าราคาของ MATIC จะพุ่งขึ้นสูงถึง 200% ภายในสิ้นไตรมาสแรก ของปี 2023

โดยพื้นฐานแล้ว ความต้องการของ MATIC สามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากโปรเจกต์ NFT ที่กำลังเติบโตของ Polygon ที่เปิดตัวโดยบริษัทกระแสหลัก

ยกตัวอย่างเช่น รายชื่อพาร์ทเนอร์ NFT ที่โดดเด่นของ Polygon รวมถึงชื่อต่างๆ อย่าง Disney, Robinhood และ Starbucks นอกจากนี้ Polygon ยังมีไตรมาสที่ 3 ที่แข็งแกร่ง โดยจำนวนกระเป๋าเงินที่ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นถึง 6 ล้านบัญชี โดยได้แรงหนุนหลักจากการเปิดตัวตลาด NFT ของ Reddit บนบล็อคเชน

อย่างรไรก็ตาม ความเสี่ยงในระดับมหภาคยังมีผลต่อการฟื้นตัวของตลาด crypto อย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวนั้นอาจส่งผลเสียต่อ Polygon แม้ว่าจะมีความร่วมมือกับแบรนด์ดังมากขึ้นแค่ไหนก็ตาม ซึ่งตามเทคนิคแล้วหากราคาของ MATIC ไม่สามารถทะลุรูปแบบกราฟไปได้ เทรนขาขึ้นก็จะโดนทำลายทิ้งทั้งหมด

คริปโทเคอร์เรนซี และ โทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

ที่มา : cointelegraph