<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

JPMorgan เริ่มทดสอบทำธุรกรรมข้ามพรมแดนเป็นครั้งแรกโดยใช้โปรโตคอล Polygon และ aave

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Bitcoin, Ethereum และ Crypto เหรียญอื่น ๆ ได้ดิ้นรนอย่างหนักในปีนี้เพื่อเปลี่ยนความคาดหวังของนักเทรดให้กลายเป็นความจริง ราคา Bitcoin ได้ร่วงลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบแตะ 70,000 ดอลลาร์ จนกระทั่งเหลือเพียงประมาณ 20,000 ดอลลาร์ในตอนนี้ และสถานการณ์ดังกล่าวก็ได้กวาดล้างมูลค่าตลาดไปประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์

ในขณะเดียวกันด้าน JPMorgan หนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของ Wall Street ที่นำโดยแม่ทัพอย่างนาย Jamie Dimon ก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนเป็นครั้งแรกโดยใช้ Blockchain-Based DeFi 

สัปดาห์นี้ JPMorgan ได้ทำธุรกรรมข้ามพรมแดนเป็นครั้งแรกบนบล็อกเชนสาธารณะ โดยใช้ PolygonMATIC โปรโตคอล Layer-2 ของ Ethereum ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อช่วยขยายขนาดของ Ethereum รวมทั้งยังได้ใช้เวอร์ชันดัดแปลงของโปรโตคอล aave ที่เป็นเทคโนโลยี DeFi เพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถให้ยืมและกู้ยืมโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง

การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนของ JPMorgan นั้นเป็นการฝากเงินเพื่อแปลงเป็นโทเค็นผ่านแผนกบล็อกเชนที่มีชื่อว่า  Onyx  ของธนาคาร โดยการชำระเงินouhได้รับการอำนวยความสะดวกโดย Monetary Authority of Singapore (MAS) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องเพื่อสำรวจแอปพลิเคชัน DeFi ที่มีศักยภาพในตลาดเงินทุน

นักพัฒนาโปรโตคอลของ DeFi ดังกล่าวได้โพสต์บน Twitter ว่าโครงการนำร่องเป็น “ก้าวที่ยิ่งใหญ่” สำหรับเทคโนโลยีนี้ โดยแสดงถึงการพัฒนาครั้งใหญ่ในการเชื่อมโยงสินทรัพย์ทางการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับ DeFi

ทั้งนี้ธนาคาร DBS ของสิงคโปร์, SBI Digital ของญี่ปุ่น, Marketnode แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลของ Singapore Exchange และ Temasek นักลงทุนของสิงคโปร์ ได้เข้าร่วมในการทดสอบ DeFi ของ JPMorgan ครั้งนี้เช่นกัน

“นวัตกรรมใน DeFi มีศักยภาพที่จะทำให้การทำธุรกรรมระหว่างประเทศมีค่าใช้จ่ายถูกลง เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น” Mikkel Morch ประธานกองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านสินทรัพย์ดิจิทัล ARK36 แสดงความคิดเห็นผ่านทางอีเมล  “ตอนนี้ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมทางการเงินแบบดั้งเดิมเริ่มยืนยันว่า โปรโตคอล DeFi เป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริงสำหรับการเพิ่มความคล่องตัวในการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ”

อย่างไรก็ตาม ความสนใจของ JPMorgan ใน Crypto บล็อกเชน และ DeFi ค่อนข้างขัดแย้งกับผู้บริหารระดับสูงของธนาคารอย่าง Jamie Dimon เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้เขาเคยเรียก Crypto ว่าเป็น “โปรเจกต์แชร์ลูกโซ่แบบกระจายอำนาจ” เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งสำหรับประเด็นนี้ นักวิเคราะห์สินทรัพย์ดิจิทัล Marcus Sotiriou จึงได้ออกมากล่าวด้วยว่า “เป็นเรื่องน่าประหลาดใจเล็กน้อยที่ได้เห็น JP Morgan เป็นผู้นำในด้านนี้

ที่มา: forbes