ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กลายเป็นหนึ่งในวาฬ Bitcoin ที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุด โดยที่รัฐบาลสหรัฐได้ยึด Bitcoin จำนวนมากนี้จากคนที่กระทำผิดกฎหมาย
รัฐบาลสหรัฐทำการยึดไปมากกว่า 50,000 BTC
ในวันนี้กระทรวงยุติธรรม (DOJ) ประกาศว่า หน่วยงานสามารถยึด BTC ได้มากกว่า 50,676.17 BTC (มูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ ณ เรทราคาวันนี้) ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายน 2021 นักเทรด Bitcoin รายหนึ่งที่มีชื่อ James Zhong Zhong ได้รับเงินก้อนใหญ่ จากการหลอกลวง เว็บไซต์ตลาดมืด Silk Road โดยใช้ประโยชน์จากกลไกการถอนเงินของแพลตฟอร์มในเดือนกันยายน 2012 นอกจากนั้นเขายังสารภาพด้วยว่าเขาได้ทำการฉ้อโกงทางอีเมลอีกหนึ่งครั้งเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ DOJ ได้ทำการเข้ายึดสินทรัพย์ โดยคิดเป็นมูลค่า 3.36 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวเลขยืนยันอย่างเป็นทางการในขณะที่มีการบังคับใช้กฎหมาย
Bitcoin มูลค่ามากกว่า 4.43 พันล้านดอลลาร์
จำนวน Bitcoin ที่ทางรัฐบาลสหรัฐยึดไปจาก Zhong คิดเป็นจำนวนกว่า 50,676 BTC นอกเหนือจากนั้นรัฐบาลสหรัฐ ยังได้ซื้อ Bitcoin เพิ่มอย่างน้อย 163,370 BTC ในช่วงสองปีที่ผ่านมา รวมเป็นมูลค่าราว ๆ 214,046 BTC หรือประมาณ 4.43 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ในเดือนพฤศจิกายน 2020 หน่วยงาน DOJ ได้ทำการยึด Bitcoin อีกจำนวน 69,370 BTC (คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ในวันนี้) จากผู้ใช้ Silk Road อีกราย ซึ่งได้รับการเผยแพร่เป็น “Individual X” และในขณะนั้น กระเป๋าที่ถือ Bitcoin จำนวนดังกล่าว มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเครือข่าย หลังจากการจับกุมครั้งนี้ทำให้รัฐบาลสหรัฐกลายเป็นหนึ่งในวาฬ Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ยิ่งไปกว่านั้นหน่วยงานรัฐบาลยังได้ทำการยึด BTC จำนวนกว่า 94,000 BTC จาก Heather “Razzlekhan” Morgan และ Ilya Lichtenstein โดยอ้างว่าทั้งคู่สมคบกันเพื่อฟอกเงินจากการแฮ็คของ Bitfinex ในปี 2016 คิดมูลค่ารวม 3.6 พันล้านดอลลาร์ในขณะนั้นมีมูลค่ามากกว่า 1.9 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้การที่รัฐบาลสหรัฐกลายเป็นเจ้าของ Bitcoin จำนวน 214,046 BTC ทำให้รัฐบาลสหรัฐ กลายเป็นวาฬ Bitcoin ที่ถือครองมากที่สุดอีกราย สิ่งนี้ทำให้หลายคนเริ่มวิตกกังวลกันว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะเอา Bitcoin ไปเทขายทอดตลาด
ที่มา : cryptobriefing