บริษัทเหมืองขุดระดับโลก Marathon Digital กลายเป็นผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่อันดับ 2 ในบรรดาบริษัทมหาชน เพราะยังไม่ได้ขาย BTC ออกเลยสักเหรียญเดียว
ด้าน Fred Thiel ซีอีโอของ Marathon Digital กล่าวในวันที่ 8 พ.ย. ว่าบริษัทกำลังเข้าสู่ช่วง “transition period (ขั้นตอนของการพัฒนาเมื่อบริษัทเริ่มเติบโตเต็มที่และรายได้ของบริษัทชะลอตัวลงตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม)” เนื่องจากดูเหมือนว่าอัตราเติบโตของบริษัท จะสามารถเพิ่มแรงขุดทั้งหมดขึ้นจาก 7EH/s ไปเป็น 23EH/s ภายในกลางปี 2023
การเพิ่มแฮชเรทของบริษัท
ทั้งนี้บริษัทได้ทำการเพิ่มแฮชเรท โดยการเพิ่มจำนวนเครื่องขุด Bitcoin ไปเป็น 6,000 เครื่อง ส่งผลให้บริษัท ได้รับอัตราแฮชเรทเพิ่มมากขึ้น โดยเดือนกรกฎาคมบริษัทสามารถขุด Bitcoin ได้จำนวน 72 BTC แต่เมื่อถึงเดือนตุลาคม จำนวน Bitcoin ที่ได้รับกลับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก อยู่ที่ 615 BTCการเพิ่มขึ้นส่งผลให้เดือนตุลาคมเป็น “เดือนที่บริษัทได้รับประสิทธิผลมากที่สุดในประวัติศาสตร์” สำหรับการขุด Bitcoin ของ Marathon
อย่างไรก็ตาม รายได้ของบริษัทกลับลดลงไตรมาสต่อไตรมาสและแบบปีต่อปี ซึ่ง Thiel กล่าวว่า “เราเชื่อว่าบริษัท Marathon มีรากฐานที่แข็งแกร่ง โดยรากฐานนี้ได้รับการสนับสนุนโดยเงินทุนสำรอง จำนวน 11,300 BTC ทำให้ Marathon กลายเป็น “ผู้ถือครอง Bitcoin รายใหญ่เป็นอันดับสองในบรรดาบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์” นอกจากนี้ Thiel ยังเปิดเผยด้วยว่า Marathon ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขาย Bitcoin ออกไป
Marathon ได้เพิ่มอัตรา hashrate ขึ้นอีก 84% โดยนำเครื่องขุดของเหมืองโรงงาน Montana มาทำการขุดในบริษัทของตน
เวลาที่ดีที่สุดในการขุด Bitcoin
Thiel ให้ความเห็นว่า “ไม่มีเวลาไหนที่ดีไปกว่านี้แล้วในการปรับเพิ่มขนาดกำลังผลิต bitcoin ของเรา… โดยใช้เครื่องขุดที่มีประสิทธิภาพมากกว่า 30%” Marathon CEO เปิดเผยว่า 60% ของ hashrate จะมาจาก เครื่องขุด Bitmain Antminer “S19XP
ด้วยเหตุนี้ ทำให้บริษัท Marathon ใช้พลังงาน “น้อยลง 47% ต่อ TH” โดยใช้เครื่องขุด Bitcoin ที่ทันสมัยซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าเครื่องขุดรุ่นทั่วไปถึง 30% ในขณะที่นักขุดรายอื่น ๆ ที่ใช้รุ่น S9 และ S19 ต้องการพลังงาน 3c และ 8.5 KWh ตามลำดับ
ที่มา : cryptoslate