ก่อนหน้านี้บริษัท MicroStrategy Inc. ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือครอง Bitcoin ไว้มากที่สุด ทั้งนี้บริษัท MicroStrategy ได้เคยโพสต์ขาดทุนไปในช่วงไตรมาสที่สาม หลังจากรายได้ในรายรับลดลงในช่วงที่ตลาดกลายเป็นตลาดหมี
ทั้งนี้ผลรวมการขาดทุนสุทธิในไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดวันในวัน 30 ก.ย. อยู่ที่ 27.1 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 2.39 ดอลลาร์ต่อหุ้น เทียบกับ 36.1 ล้านดอลลาร์ หรือ 3.61 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
นอกจากนั้นผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Michael Saylor ก็ได้ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ในเดือนสิงหาคมเพื่อมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์ด้าน Bitcoin ของบริษัท
ด้านตัวเลขรายรับของบริษัท ลดลง 2.1% มาอยู่ที่มูลค่าสุทธิที่ 125.4 ล้านดอลลาร์เนื่องจากยอดขายลดลงซึ่งยอดขายซอฟต์แวร์เป็นรายได้หลักของบริษัทของผู้ผลิตซอฟต์แวร์ระดับองค์กร ใบอนุญาตผลิตภัณฑ์ และการสนับสนุน หลังจากรายงานผลขาดทุนในไตรมาสที่ 2 แล้วที่ 1 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สอง ในไตรมาสปัจจุบันตัวเลขดังกล่าวก็ยังลดลงอีก เหลือเพียง 727,000 ดอลลาร์ในช่วงล่าสุด
บริษัท MicroStrategy เป็นบริษัทที่ซื้อ Bitcoin เป็นจำนวนมากมาตั้งแต่ปี 2020 เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ได้ถูกบังคับให้ต้องลดค่าใช้จ่ายจำนวนมากในปีนี้ เนื่องจากมูลค่าของสกุลเงินดิจิทัลลดลง Bitcoin ลดลงเกือบ 60% ในช่วงครึ่งแรกของปี ก่อนที่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 3.7% ในไตรมาสล่าสุด
อย่างไรก็ตามในไตรมาสนี้ MicroStrategy ได้ทำการเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมประมาณ 301 BTC แต่ค่อนข้างเป็นตัวเลขที่น้อย เมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่เขาได้ซื้อ Bitcoin ไปเป็นจำนวน 9,000 BTC ทั้งนี้บริษัทเป็นเจ้าของ bitcoin รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ 130,000 Bitcoins ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 3,406 ล้านดอลลาร์
โดยล่าสุดจากราคา Bitcoin ได้พุ่งทะลุราคา 16,000 ดอลลาร์ นี่อาจจะทำให้ต้องจับตาดูว่าบริษัท MicroStrategy จะขาดทุนไปมากขนาดไหนเพราะก่อนหน้านี้ที่ราคา Bitcoin อยู่ในระดับราคา 18,000 ดอลลาร์ สภาพการเงินของบริษัทก็เรียกได้เลยว่าขาดทุนเข้าขั้นวิกฤตแล้ว โดยก่อนหน้านี้มีรายงานในช่วงเดือนตุลาคมว่า บริษัทได้ ขาดทุนใน Bitcoin มากถึง 129,978 ล้านบาท
ที่มา : bnnbloomberg