<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

รายงานเผย Alameda Research ใช้ข้อมูลวงในแอบซื้อเหรียญ Token ก่อนลิสต์บน FTX แล้วเทขายหลังลิสต์

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

Alameda Research ได้ใช้ข้อมูลวงในเกี่ยวกับการลิสต์เหรียญ token ต่าง ๆ บน FTX เพื่อซื้อเหรียญเหล่านั้นก่อนการประกาศเปิดลิสต์บนกระดานเทรด ก่อนที่จะเทขายทีหลังเพื่อเอากำไร อ้างอิงจากรายงานของบริษัทด้านการวิเคราะห์ คริปโต Argus

ระหว่างต้นปี 2021 ถึงเดือนมีนาคมปีนี้ Alameda ถือครองโทเค็น 18 ตัวที่มูลค่ารวมกันกว่า 60 ล้านดอลลาร์ โดยภายหลังโทเคนเหล่านี้ก็ถูกลิสต์บน FTX โดยการวิเคราะห์นี้ถูกกล่าวถึงเป็นครั้งแรกในรายงานบน Wall Street Journal เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

Alameda Research เป็นบริษัทด้านการเทรดสาย quantitative ที่ถูกก่อตั้งโดยนาย Sam Bankman-Fried ในปี 2017 นอกจากนี้เขายังเป็นผู้ก่อตั้ง FTX อีกด้วย ในปี 2021 Bankman- Fried ยืนยันว่าทั้งสองบริษัทเป็นนิติบุคคลที่แยกจากกัน แต่ปัญหาด้านการเงินของ FTX ทำให้พวกเขาต้องระงับการถอนเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และท้ายที่สุดก็ยื่นล้มละลาย เนื่องจากงบดุลส่วนใหญ่ของ Alameda ประกอบด้วยเหรียญ FTT ซึ่งเป็นเหรียญประจำเว็บกระดานเทรด FTX

ส่วนบริษัท Argus ซึ่งเป็นบริษัทในลอนดอน ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีที่แล้ว และมีนักลงทุนยักษ์ใหญ่อย่าง Y Combinator และ Charles River Ventures เข้ามาลงทุนด้วย พวกเขาได้กล่าวว่า

“ส่งที่เราเห็นนั้นก็คือพวกเขามักจะมีโอกาสได้ซื้อก่อนล่วงหน้า 1 เดือนเสมอทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเลย” Omar Amjad ผู้ร่วมก่อตั้ง Argus กล่าวกับ WSJ “ค่อนข้างชัดเจนว่ามีบางอย่างในตลาดที่มากระซิบหูบอกพวกเขาว่าควรซื้อเหรียญตัวไหน ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยซื้อ”

ลักษณะดังกล่าวถือเป็นรูปแบบที่ปรากฏที่บริษัทคริปโตอื่นๆ เช่นตลาด NFT ยักษ์ใหญ่ OpenSea และเว็บเทรด Coinbase บ่งบอกว่ากฎหมายคริปโตนั้นยังไม่ถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง

Nate Chastain อดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ OpenSea เป็นนักเทรดรายแรกที่ถูกตั้งข้อหาด้วยการซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ข้อมูลภายใน ตามรายงานของกระทรวงยุติธรรมปีที่แล้ว เขาถูกกล่าวหาว่าใช้ข้อมูลภายในเกี่ยวกับคอลเลกชัน NFT ที่จะนำเสนอในหน้าแรกของตลาดเพื่อผลประโยชน์ของเขาเอง หลังจากถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาในเดือนมิถุนายน เขาได้ขอให้คดีนี้ถูกยกฟ้องโดยอ้างว่า NFT “ไม่ใช่หลักทรัพย์หรือสินค้าโภคภัณฑ์” แต่ผู้พิพากษาปฏิเสธคำร้องของเขา

ในเดือนเมษายน Influencer สายคริปโตผู้ใช้นามว่า Cobie ได้พบความไม่ชอบมาพากลของกระเป๋าเหรียญ Ethereum ใบหนึ่งที่ซื้อโทเค็นมูลค่า 400,000 ดอลลาร์ก่อนที่เหรียญดังกล่าวจะถูกประกาศลิสต์บน Coinbase หลังจากนั้นสองสัปดาห์ต่อมา Brian Armstrong CEO ของ Coinbase ประกาศในบล็อกโพสต์ว่าบริษัทจะไม่กล่าวถึงเหรียญที่กำลังพิจารณาเข้าลิสต์อีกต่อไป

ในเดือนกรกฎาคม กระทรวงยุติธรรมตั้งข้อหา Ishan Wahi อดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Coinbase ว่าสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงผ่านสื่อ ในวันเดียวกันนั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้อง Wahi เช่นกัน โดยกล่าวว่าเขาได้แบ่งปันการประกาศรายชื่อที่ไม่ได้เผยแพร่กับ Nikhil Wahi น้องชายของเขา และ Sameer Ramani เพื่อนของเขา

หากข้อกล่าวหาต่อ Alameda Research พิสูจน์ได้ว่าเป็นจริง หมายความว่าบริษัทจะกลายมาเป็นผู้ frontrun ลูกค้าตัวเองในระดับที่ใหญ่กว่าอดีตผู้จัดการ OpenSea หรืออดีต Coinbase ที่ถูกตั้งข้อหาไปแล้ว