<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กำลังพิจารณาส่งตัว Sam Bankamn-Fried กลับสหรัฐเพื่อสืบสวนสอบสวน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ในทั้งสองประเทศกำลังสนทนากันว่าจะนำอดีต CEO ของ FTX กลับไปยังสหรัฐอเมริกาเพือสอบปากคำเกี่ยวกับวิกฤตสภาพคล่องของ FTX กระดานเทรดชั้นนำระดับโลก

เจ้าหน้าที่ของสหรัฐอเมริกาและบาฮามาสกำลังหารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการส่งตัว Sam Bankamn-Fried อดีต CEO ของ FTX กลับไปยังสหรัฐฯ เพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ตามรายงาน ของ Bloomberg ที่อ้างถึงบุคคลที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ การสนทนาระหว่างเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายในท้องถิ่น รวมถึง FBI ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาสอบสวนบทบาทของ Bankman-Fried ในการล่มสลายของกระดานเทรด

นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวมีข่าวลือปรากฏขึ้นว่า Bankman-Fried อาจหลบหนีไปยังดูไบ อย่างไรก็ตามเนื่องจากข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้ผู้ลี้ภัยในสหรัฐฯ ที่พยายามย้ายถิ่นฐานไปยังดูไบมีโอกาสสูงที่จะถูกควบคุมตัวและส่งกลับ

เป็นที่ทราบกันดีว่าหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของบาฮามาสและผู้ตรวจสอบทางการเงินได้เปิดการสอบสวนสถานการณ์การล่มสลายของ FTX สำหรับการประพฤติมิชอบทางอาญา อีกทั้งหน่วยงานด้านการเงินในตุรกีได้เปิดตัวการสอบสวนกระดานเทรดเช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมา FTX  ยื่นฟ้องล้มละลายเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนและในวันเดียวกันนั้น Bankman-Fried ถูกยื่นฟ้องล่าสุดจากคดีล้มละลายพร้อมเปิดเผยว่า FTX อาจต้องรับผิดชอบต่อเจ้าหนี้มากกว่าหนึ่งล้านราย

บางคนคาดการณ์ว่าอดีต CEO จะได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยจากการกระทำของเขา ซึ่งทำให้ในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนประชาชนเกือบ 4,000 คนได้ลงนามในคำร้องเพื่อเรียกร้องให้สภาคองเกรสพิจารณาอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ “การกระทำในการฉ้อโกง FTX” ต่อ Gary Gensler หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ

ทั้งนี้ในวันแรกของวิกฤตของ FTX Tom Emmer สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งพรรครีพับลิกันของรัฐมินนิโซตากล่าวว่าเขามีเหตุผลที่จะเชื่อว่า Gensler มีความสัมพันธ์ลับกับ FTX เพื่อจุดประสงค์ด้านกฎระเบียบ  ซึ่งเขากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด

อย่างไรก็ตามตั้งแต่การล่มสลายของ Terra และ FTX ที่ไล่ ๆ กัน ทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติในสหรัฐอเมริการวมถึงทำเนียบขาวได้เรียกร้องให้มีการควบคุม crypto ที่เข้มงวดมากขึ้น