<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทนายความด้านการล้มละลาย ชี้ ! FTX อาจใช้เวลา ‘หลายทศวรรษ’ เพื่อหาเงินมาคืนเจ้าหนี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ในขณะที่นักลงทุนอยากรู้ว่าเมื่อไรที่พวกเขาจะได้รับเงินคืนจากกระดานเทรด Crypto ที่ล้มละลาย ทนายความด้านการล้มละลายก็ได้ทำลายความหวังว่า FTX อาจใช้เวลาหาเงินนาน “หลายทศวรรษ”

บริษัทกระดานเทรด Crypto พร้อมด้วยบริษัทในเครือกว่า 130 แห่งได้ยื่นขอความคุ้มครองการล้มละลายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน โดยในขณะนั้น Stephen Earel ทนายความด้านการล้มละลายและหุ้นส่วนของ Co Cordis ในออสเตรเลีย กล่าวว่าเหตุการณ์นี้จะเป็น “บทเรียนครั้งใหญ่” ในกระบวนการชำระบัญชีเพื่อตระหนักถึงสินทรัพย์ Crypto และหาวิธีกระจายเงินทุน ซึ่งกระบวนการนี้อาจใช้เวลานานหลายปี

Earel กล่าวว่า น่าเสียดายที่ผู้ใช้ เว็บเทรด FTX กำลังต่อแถวรออยู่กับคนอื่น ๆ อย่างเจ้าหนี้ นักลงทุน และผู้ให้ทุน รวมทั้งเตือนผู้ที่ทำการเทรดแบบ “crypto to crypto” ว่าอาจจะไม่ได้รับการหนี้คืน “เป็นเวลาหลายปี”

ผู้มีบทบาทสำคัญในการล้มละลายของ Celsius อย่าง Simon Dixon ผู้ก่อตั้ง BnkToTheFuture แพลตฟอร์มการลงทุนระดับโลก ระบุว่า ใครก็ตามที่ถือหุ้นในกองทุน FTX จะกลายเป็นเจ้าหนี้ โดยจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการเจ้าหนี้เพื่อเป็นตัวแทนในเรื่องของผลประโยชน์

Dixon ระบุว่าการที่ FTX จะพร้อมชดใช้เงินคืนให้กับเจ้าหนี้นั้น ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เหลืออยู่จากต้นทุนหลังการล้มละลาย โดยค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อาจสูงขึ้นมาก ถ้าหากต้องใช้เวลานานหลายปีในการกู้คืนเงินทุน ตามที่ CEO ของ Binance Australia เคยชี้ให้เห็นด้วยว่าสถานการณ์นี้หมายถึงค่าธรรมเนียมทางกฎหมายและการจัดการที่มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของลูกค้า

ในขณะเดียวกัน นักกฎหมายด้านสินทรัพย์ดิจิทัล Irina Heaver หุ้นส่วนของ Keystone Law ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวกับทางสื่อข่าว Cointelegraph ว่ามีผู้ใช้เว็บเทรดในตะวันออกกลางที่รู้สึกเจ็บปวดจากการล่มสลายของ FTX เนื่องจากภูมิภาคนี้เป็นฐานผู้ใช้ FTX ที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก

Heaver อธิบายว่า เนื่องจาก FTX ได้รับใบอนุญาตและการกำกับดูแลจากหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์เสมือน (VARA) ของดูไบที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ จึงทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญสำหรับหน่วยงานกำกับดูแล เนื่องจากพวกเขามี “ความล้มเหลวด้านกฎระเบียบครั้งใหญ่” อยู่ในมือ

Heaver กล่าวว่า ถ้าหาก FTX เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย สิทธิ์ของเจ้าหนี้จะถูกควบคุมด้วยระบบกฎหมาย โดยมีศาลและผู้ดูแลการล้มละลายเข้ามาเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ Heaver ได้แนะนำให้ผู้ที่สูญเสียจำนวนมากจากการล่มสลายของ FTX รับคำแนะนำทางกฎหมายและพบปะกับฝ่ายอื่น ๆ ที่ได้รับความสูญเสียเช่นกัน

ล่าสุด การล่มสลายของ FTX ส่งผลกระทบอย่างมากต่อนักลงทุนทั่วโลก มีการเปิดเผยเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า เว็บเทรดที่ล้มละลายอาจมีเจ้าหนี้มากกว่า 1 ล้านคน โดยบทความจาก Reuters ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนเปิดเผยว่า FTX เป็นหนี้เจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดในโลกจำนวน 50 ราย รวมเป็นหนี้สินมูลค่าเกือบ 3,100 ล้านดอลลาร์

ที่มา: cointelegraph