รายงานการประชุมที่เผยแพร่เมื่อวันพุธระบุว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าในเร็ว ๆ นี้ควรมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้น้อยลงกว่าเดิม เนื่องมาจากการประเมินนโยบายผลกระทบที่มีต่อระบบเศรษฐกิจ
เหตุการณ์นี้จะสื่อเป็นนัยว่าการเคลื่อนไหวที่อาจสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอาจจะมีความรุนแรงน้อยลง เนื่องจากสมาชิกคณะกรรมการบางคนสดงความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงต่อระบบการเงิน ถ้าหาก Fed ยังคงเดินหน้ากดดันอย่างรุนแรงต่อไป
“ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เห็นพ้องตรงกันว่า การชะลออัตราดอกเบี้ยน่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้วในช่วงเวลานี้” รายงานการประชุมระบุ “ความล่าช้าและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของการดำเนินนโยบายทางการเงินต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงอัตราเงินเฟ้อนั้น เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมการประเมินดังกล่าวจึงมีความสำคัญ”
รายงานการประชุมระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลดลงเล็กน้อยจะทำให้ผู้กำหนดนโยบายมีโอกาสประเมินผลกระทบของการปรับขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการตัดสินใจของธนาคารกลางเกี่ยวกับการปรับอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป คือ วันที่ 14 ธันวาคมนี้
อย่างไรก็ตาม ในรายงานการประชุมยังระบุด้วยว่า สมาชิกบางคนให้ความเห็นว่า “การชะลออัตราดอกเบี้ยอาจสามารถลดความเสี่ยงของความไม่มั่นคงในระบบการเงินได้” ขณะเจ้าหน้าที่หลายคนมองว่าความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจจะขาดความสมดุลมากขึ้น
สถานการณ์ตลาดคริปโตหลังการเผยแพร่รายงานการประชุม
หลังจากปรับขึ้น 0.75 เปอร์เซ็นต์ติดต่อกันมา 4 ครั้ง เมื่อข้อสรุปของการประชุมครั้งล่าสุดชี้ไปที่ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักเทรดในตลาดต่างคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่าคณะกรรมการตลาดกลางของรัฐบาลกลางซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนั้น จะมีแผนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ระดับ 0.5 เปอร์เซ็นต์ในเดือนธันวาคม
ทั้งนี้ตลาดยังคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้งในปี 2023 จนส่งผลให้อัตราเงินกองทุนอยู่ที่ประมาณ 5% แต่อาจมีการปรับลดลงก่อนสิ้นปีหน้า และในช่วงเวลานี้ นักเทรดส่วนใหญ่ยังแสดงให้เห็นถึงความกังวลที่ว่าสถานการณ์ตลาดหมีคริปโตจะสิ้นสุดลงเมื่อไร รวมทั้งเห็นด้วยกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ลดลง
แต่สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ในตลาดมาอย่างยาวนานนั้น ไม่ได้กำลังมองหาว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร แต่ยังคาดการณ์ด้วยว่าผู้กำหนดนโยบายจะดำเนินการอย่างไรในปีหน้า
ขณะเดียวกันตลาดหุ้นทั่วโลกตลาดหุ้นทั่วโลกก็ปรับตัวเป็นขาขึ้นแล้ว หลังจากที่ได้รับข่าวดีนี้ และเป็นที่รู้กันดีว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกับตลาดคริปโต ดังนั้นถ้าหาก Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง ตลาดคริปโตก็อาจทยอยฟื้นตัวขึ้นเช่นกัน
อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตลาดคริปโตฟื้นตัวขึ้นได้นั้น ยังคงเกี่ยวข้องกับการลดอัตราดอกเบี้ย กล่าวคือ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่มองว่าเป็นช่วงเวลาของการนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น และคริปโตก็ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่านักเทรดที่กลับมาในตลาดคริปโตอาจเพิ่มขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้
ที่มา: cnbc